Piero Story
5 posters
หน้า 1 จาก 1
Piero Story
Piero Story
===============================================================================================
===============================================================================================
===============================================================================================
===============================================================================================
- Ch.1 Born of Wizard (กำเนิดพ่อมด):
- ณ อาณาจักรแห่งเหล่าพ่อมดแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ มีกษัตริย์และราชินีผู้ปกครองเมืองนามว่า กษัตริย์ดาโล และราชินีลูเรเทีย
ซึ่งนางกำลังท้องได้ 8 เดือน ในขณะเดียวกัน นางก็มีธิดาอยู่แล้ว นามว่า “อามูดาส” นางอายุ 4 ขวบ และกำลังจะ 5 ขวบ
แต่เราจะขอไม่เล่าถึงเธอในตอนนี้ (- -*) กษัตริย์และราชินี ปกครองเมืองมากว่า 300 ปีแล้ว และต้องการโอรสเพื่อปกครองเมืององค์
ต่อไป ซึ่งตอนนี้ก็รู้แล้ว ว่ามนุษย์ที่อยู่ในท้องของราชินีลูเลเทียเป็นโอรส กษัตริย์จึงพอใจอย่างมาก และในวันนี้เขาจึงเตรียมการจัดงาน
ฉลองยิ่งใหญ่ที่ปราสาท
ณ ห้องโถงปราสาท เป็นที่ ที่กว้างขวางราวกับสนามบอล ถ้าให้เดา คงจุคนได้ซัก..ล้านคน ซึ่งการจะสร้างที่นี้มันทำได้ง่ายเพราะมี
เวทย์มนต์ ตอนนี้ก็มีคนรับใช้วิ่งวุ่นไปหมด ทั้งถือของ บ้างก็มีของลอยตาม ในขณะที่อุ้มของอยู่เต็มมือ แต่ถ้ามองดูแล้ว มันก็โล่งอยู่ดี
กษัตริย์เดินเข้ามาในห้องโถง ผมสีขาวแกมน้ำเงินยาวถึงบ่า ซึ่งหยิกหยอยทำให้ดูเท่ห์เหลือเกิน แต่พระองค์จะอยู่ในชุดนอนและสวม
หมวกหมีก็เถอะพระองค์ดูไม่เหมือนคนที่มีอายุได้ 347 ปีเลย พระองค์เหมืองพึ่ง 40 ต้นๆเอง
มีคนรับใช้วิ่งมาหาพระองค์ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าคุณวิ่งมาครึ่งสนามฟุตบอลโดยไม่หยุดพัก
“นี่ครับ...แฮ่กๆ แผน...ผัง แฮ่ก..งานครั้ง...นี้ครับ แฮ่กๆๆ” คนรับใช้พูดด้วยความเหนื่อยสุดขีด
“ไหน ดูซิ” กษัตริย์รับกระดาษแผ่นหนาปึกนึงจากคนรับใช้ “อู้ว..ดูดีเชี่ยวหล่ะ”กษัตริย์พูดด้วยความพึงพอใจ ซึ่งทำให้คนรับใช้ยิ้มกว้าง
และดูเหมือนจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แต่เขาก็ยังหอบอยู่ดี
“อืม..ทำดีมาก วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน” กษัตริย์ยื่นปึกกระดาษนั่นให้คนรับใช้แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน
“ฮ๊าววววววว.....ได้เวลานอนแล้ว..” พอหัวถึงหมอนกษัตริย์ก็หลับทันที
เช้าวันรุ่งขึ้น งานเลี้ยงก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา เหลือแต่อาหาร และการจัดโถงใหญ่ยักษ์นี่บางส่วน
ณ วันงาน
งานนี้เปิดให้ผู้คนเข้าร่วมได้ทุกเพศทุกวัย แม้จะแก่หง่อมหรือเด็กทารก เมื่อเข้าไปแล้วด้วยเวทย์มนต์ จะเปลี่ยนชุดให้ทุกคนทันที
ที่หน้าประตูมียามสี่คนคอยเฝ้าประตูและเขียนชื่อผู้เข้าร่วมงานซึ่งจะเป็นการตรวจตัวตนไปด้วย เพื่อไม่ให้มีการปลอมชื่อ ส่วนพวกตัวตลก
หรือคนที่เอาไว้สร้างสีสรร ก็เดินพล่านอยู่เต็มงาน คอยแสดง หรือหรอกให้เด็กกลัว อาหารมีให้เลือกสรรมากมายซึ่งถ้าเอามากองรวมกัน
ก็น่าจะเท่ากับกระท่อมหลังใหญ่ๆหลังหนึ่งเลย มีให้เลือกมากมาย แถมเมื่อกินเข้าไปแล้ว อันไหม่ก็จะโผล่ขึ้นมาอีก ทำให้อาหารพวกนั้น
ไม่วันหมด
กษัตริย์ดาโล เดินเข้ามาในห้องโถงบนชั้นสองที่มีระเบียง พระองค์สวมชุดคลุมที่ดูเป็นทางการ มีตราอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมดที่อกซ้าย
และขวา เขาให้รองเท้าปลายแหลมที่เหมือนตัวตลก สีทอง และไม่ใส่หมวก พระองค์พยายามปรับไมค์ให้ตรงกับปากของพระองค์
“โหล.. โหล...เยี่ยม” พระองค์เชคเสียงไมค์แล้วกล่าวต่อ “ชาวเมืองอันเป็นที่รักของข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่พวกท่านมางานเลี้ยงฉลอง
ของลูกชายข้า งานเลี้ยงนี้เกินขึ้นไม่ได้ ถ้า-”ชุดคลุมของพระองค์ถูกดึงเบาๆจากใครสักคนจึงทำให้พระองค์หยุดพูดกะทันหัน และหันไปมอง
“ท่านพ่อคะ...ท่านพ่อ..” อามูดาส เรียกพร้อมกับดึงผ้าคลุม “ท่านแม่ปวดท้องค่ะ...” อามูดาสพูดพร้อมกับน้ำตาไหล
“หา!..จิงหรือ อามูดาส..” น้ำเสียงพระองค์ตกใจมาก และรีบวิ่งไปที่.....ที่ไหน พระองค์หันกลับมากะจะถามอามูดาส
“ห้องแต่งตัวค่ะ..”พระองค์จึงรีบวิ่งไปที่นั่น เมื่อพระองค์ไปถึงก็เข้าไปโอบราชินี
“น้องจะคลอดแล้วหล่ะท่านพี่..โอ้ยย..”นางพูดเสียงสั่นเครือ พร้อมกับกุมท้องที่ปวดอยู่ตลอดเวลา
“แต่นี่พึ่งแปดเดือนเองนะ” พระองค์ พูดขึ้นด้วยความสงสัยในขณะที่ประคองราชินีไปที่ห้องนอน
“สงสัยลูกเราจะรีบหน่ะค่ะ..”ราชินีพูดกับกษัตริย์พร้อมยิ้มน้อยๆที่แสดงออกมาได้ทั่งๆที่เจ็บขนาดนั้น
มีคนรับใช้ 3 คน วิ่งมาหาทั้งคู่อย่างรีบร้อนและพาราชินีไปที่ห้องนอน ส่วนกษัตริย์วิ่งกับไปที่ระเบียงห้องโถงและพูดใส่ไมค์
“ในที่นี้ ใครเป็นหมอตำแยบ้าง..ด่วนที่สุด”พระองค์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มีบางคนยกมือพร้อมกับวิ่งแหวกผู้คนมาทางระเบียง และอยู่ๆคน
ที่อ้างว่าเป็นหมดตำแยเมื่อกี้ ก็หายตัวมาอยู่ที่ห้องนอนที่ราชินีนอนอยู่ พวกเขาดูงงๆ และยังยกมืออยู่ ภายในห้องมีคนรับใช้อยู่ 3 คน
กำลังเช็ดตัวราชินีอยู่ เมื่อเห็นกษัตริย์และหมอตำแยมา นางหลีกทางให้พระองค์และหมอตำแยเหล่านั้น
หมอตำแยคนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้นำการทำคลอดครั้งนี้ เดินนำเข้ามาหาราชินี หมอตำแยผู้นำเป็นหญิงวัยทอง ดูเหมือนจะไม่ใช่หมอ
ตำแยเลยด้วยซ้ำ เพราะชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้ เป็นชุดของงานเลี้ยง
“น้ำอุ่น!”อยู่ๆ ภาชนะใส่น้ำอุ่นก็มาวางอยู่ข้างๆนาง “ช่วยเช็ดตัวพระองค์หน่อยสิ ใครก็ได้” นางพูดพร้อมกับหันมองคนรับใช้
“ผ้า…คานด้วย!”ผ้าทีมัดอยู่กลางคานไม้ที่ลอยอยู่ โผล่ขึ้นมาเหนือหัวราชินีพอดี”จับไว้เพคะ”นางบอกราชินีให้จับผ้าที่อยู่เหนือหัว
กษัตริย์รออยู่นอกห้อง และกำลังเดินไปเดินมา สีหน้าพระองค์ดูจะเครียดมาก แต่ก็เหมือนว่าจะดีใจด้วย
และแล้ว ประตูห้องนอนของราชินีก็ถูกเปิดออก กษัตริย์รีบหันไปยังประตูนั่น ก็พบว่า มีหญิงหนึ่งเดินออกมาจากห้องพร้อมอุ้มเด็กทารกตัวเปียกที่เอาแต่ร้องไห้ออก ใช่เลย...นั่นลูกชายของพระองค์นี่
“ยินดีด้วยค่ะ...พระองค์ได้ลูกชาย” หมอตำแยพูดพร้อมยิ้มให้กษัตริย์
เด็กคนนี้ หน้าดูเหมือนแม่มากเพียงแต่ดวงตา เป็นสีเดียวกับกษัตริย์
“ข้าขออุ้มมั่งๆ”กษัตริย์กระโดดโลดเต้น พร้อมกับยื่นมือไปรับกษัตริย์องค์น้อย
พระองค์ดูเห่อมากๆ เหมือนกับการของคลอด อามูดาส แต่ดูเหมือนครั้งนี้จะดีใจมากกว่า
“หนูขอดูหน้าน้องของหนูหน่อยได้มั้ยคะ..”อามูดาสพูดกับกษัตริย์ในขณะที่เขากำลังหยอกล้อลูกน้อยของเขาอยู่ กษัตริย์ ย่อตัวลงเพื่อให้
อามูดาสมอง
“นี่แหละลูก น้องชายของลูกไงหล่ะ”พระองค์พูดด้วยความภูมิใจ
พอพระองค์ให้อามูดาสดูจนพอใจ พระองค์ได้เดินกลับเข้าไปในห้อง ราชินียิ้มให้พระองค์ ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในห้องเลย มีเพียงแต่ท้องโตๆ ของนางหายไปเท่านั้น
พระองค์เดินไปนั่งข้างๆ เตียงที่ราชินีนอนอยู่”กษัตริย์น้อยของเราควรชื่ออะไรดีนะ ลูเรเทีย”พระองค์ถามราชินีพร้อมกับยื่นทารกให้
“อืม.ม..ม.. หน้าตาท่าทางแบบนี้......”สีหน้านางครุ่นคิด “อ๊า......นึกออกแล้ว เดปุซ ต้อง เดปุซ ชื่อกลาง น่ะ”ราชินีดูท่าจะพอใจใน
ความคิดของพระองค์ “ส่วนชื่อนำ ท่านพี่ตั้งนะ”
“จะเอาไงดีหล่ะเนี่ย” พระองค์งงและเลือกไม่ถูก แต่อยู่ๆ ก็มีความคิดเข้ามาในหัว
ตอนกษัตริย์ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ พระองค์ชอบในตัวตลกมาก พระบิดาของพระองค์ ก็ชอบเช่นกัน ส่วนมากแล้วเด็กๆจะกลัวตัวตลก
แต่พระองค์ต่างไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อพบตัวตลกพระองค์จะวิ่งเข้าไปหาทันที พร้อมกับกระโดดโลดเต้นโบกไม้โบกมือในขณะที่ตัวตลกยก
พระองค์โยนไปโยนมา พระองค์มีความสุขมาก แล้วตัวตลกที่พระองค์ประทับใจที่สุดก็คือ “ปิเอโร่”พระองค์พูดออกเสียง พร้อมกับดวงตา
ที่เป็นประกาย “ปิเอโร่ ดีที่สุดแล้ว...”พระองค์ย้ำอีกครั้ง
“ท่านพี่....ชื่อมันออกจะคล้ายๆชื่อตัวตลกนะ คิดดีแล้วหรอ” นางไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่เมื่อพระองค์หันมามองนางด้วยดวงตาที่เป็น
ประกายที่สุดที่นางเคยเห็น พร้อมทั้งยังพยักหน้าให้นาง นางจึงต้องยอมพอใจ
“ก็ได้เพคะ...”ในที่สุดราชินีก็ยอมจำนน กษัตริย์ได้ยินดังนั้นก็วิ่งออกจากห้องไป และหายเงียบไปประมาณ 1 นาที
“ราษฎรทั้งหลาย....บัดนี้ข้ามีโอรสแล้ว....”เสียงที่ออกมาจากเครื่องเสียงใหญ่ยักษ์ลอดผ่านห้องนอนของราชินีเข้ามา
“อาร์กอร์ส เดปุซ ปิเอโร่ นี่คือชื่อบุตรของข้า”พระราชินี ยิ้มขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าเล็กๆในขณะก้มหน้าดูโอรส ราชินีก็โดนดูดนิ้วไปแล้ว
พระองค์จึงเอานมให้ทารกกิน
และแล้วเสียงเพลงเฉลิมฉลองก็ดังผ่านห้องมาอีกครั้ง ครู่หนึ่ง กษัตริย์ก็เหนื่อยหอบเข้ามาในห้อง พร้อมกับยิ้มให้ราชินีและเข้าไปจูบหน้า
ผากนางหนึ่งฟอด สายตาทั้งคูก็จับจ้องที่ลูกน้อยอีกครั้ง แต่คราวนี้ทั้งคู่สังเกตเห็นรอยแดงที่อกข้างขวา ดูเหมือน.... อะไรซักอย่าง...
…………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………
………………..จบตอนที่ 1....................
===============================================================================================
===============================================================================================
- Ch.2 A Dragon Birthmark (ปานมังกร):
Ch.2 A Dragon Birthmark (ปานมังกร)
‘อาร์กอร์ส เดปุซ ปิเอโร่’ เด็กน้อยผู้เป็นบุตรแห่งกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ บัดนี้มีอายุครบ 3 ขวบแล้ว
ปานแดงบนอกขวาเริ่มเผยให้เห็นชัดเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
“มันเป็นเรื่องจริงนะขอรับฝ่าบาท...พระองค์ต้องยอมรับมันนะ ไม่งั้นหายนะได้เกิดแน่” ผู้หยั่งรู้ของกษัตริย์ดาโลว่า
“หายนะอะไร?...ข้าไม่สนทั้งนั้น ข้าจะเลี้ยงบุตรของข้าต่อไป”กษัตริย์ตรัสอย่างเข้มแข็ง และไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่ผู้หยั่งรู้พูด
“เราไม่สามารถทิ้งบุตรของเราออกไปเร่ร่อนผู้เดียวได้หรอกนะ..”ราชินีลูเรเทีย
พูดด้วยสีหน้าจิงจัง และเช่นเดียวกับกษัตริย์นางไม่เห็นด้วย
“พวกท่านก็รู้นี่...คนทั้งเมืองมาแลกกับเด็กคนเดียวมันคุ้ม”ผู้หยั่งรู้ประชดประชันและพูดต่อ
“ถ้าเราไม่นำเขาออกไปจากเมืองให้เร็วที่สุด มันก็ยิ่งเสี่ยงนะขอรับ..”
กษัตริย์ดูท้อใจและหมดหนทาง ราชินีก็เช่นกัน พวกเขาไม่มีทางปล่อยลูกไปเด็ดขาด แต่ถึงอย่างนั้น ชาวเมืองของเขาหล่ะ
“ข้ารู้ว่ามันทำใจลำบาก แต่ว่า...ท่านก็รู้ดีเรื่องปานแดงรูปมังกรที่อกขวานี่ ว่ามันร้ายแรงแค่ไหน”ผู้หยั่งรู้พูดย้ำอีกครั้ง
“พวกท่าน ต้องตัดสินใจให้ถูก ข้าขอตัวก่อน..”ผู้หยั่งรู้เดินออกจากห้องด้วยสีหน้าท้อใจ
กษัตริย์ดูเหมือนจะร้องไห้ จู่ๆดวงตาเป็นประกายก็ฉายแววขึ้นมาอีกครั้ง “เซซิส...ไง”
ราชินีได้ยินดังนั้นหน้าก็ถอดสี กลับกลายเป็นว่าปลื้มใจจนอยากร้องให้
‘ซาโทรัส เซซิส’ 1 ใน 10 พ่อมดในตำนาน ที่ชอบไปๆมาๆ หรือวนเวียนอยู่ที่เมือง
พ่อมดในตำนานคนอื่นแทบจะไม่เข้ามาในเมือง แต่เซซิสนี่ ไม่ถือตัว และชอบพูดจาวกวน กวนตีนชาวบ้านไปทั่ว
ดูเผินๆ ก็เหมือนคนทั่วไป ไม่มีใครอยากเรียกเขาว่าตำนานสักเท่าไหร่ เพราะว่าไม่มีใครเชื่อ แต่สำหรับกษัตริย์แล้ว
คนๆนี้ เหมาะสมที่สุด ที่กษัตริย์จะไว้วางใจให้เขาเลี้ยงปิเอโร่ และก็สอนวิชาให้เขาด้วย
‘เฮ้อ..ข้าว่าแล้วมันต้องมีทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน’ กษัตริย์คิด
เด็กน้อยทั้ง 2 เล่นอยู่ที่สวนหลังปราสาทด้วยกัน ทั้งคู่ดูเป็นพี่น้องที่รักกันมาก และปิเอโร่ก็ดูจะชอบพี่สาวคนนี้มาก
เขายังไม่รู้เรื่องที่จะต้องไปอยู่ที่อื่น ‘นอกเมือง…ไกลโข’
ผู้ชายที่ดูสูงใหญ่ มีหนวดมีเครา ใส่ผ้าคลุมเก่าๆ แต่ดูไม่เป็นอันตรายใดๆ เพราะดูเผินๆแล้วเขาไม่สามารถทำอะไร เด็ก
อายุ 3-7ขวบได้เลย
ปิเอโร่มองตาชายคนนั้นแล้วรู้สึกชอบขึ้นมาทันที เขาก็เดินเตาะแตะไปหา “คุณลุงเป็นใครฮะ”ปิเอโร่ถามด้วยความใสซื่อ
“อ๋อ..ลุงเป็นคนที่จะเอาหนูไปอยู่ด้วยไงจ๊ะ...”ชายคนนั้นพูดด้วยความอ่อนโยน ทั้งๆที่หนวดเคราเฟิ้ม แต่เขาก็ดูไม่น่ากลัวเหมือนเดิม
“ท่านพ่อต้องไม่ยอมแน่..”อามูดาสพูดขึ้น “ใช่ๆ ท่านพ่อไม่ยอมๆ..”ปิเอโร่ก็เห็นด้วยกับพี่สาว แล้วเดินเข้าไปกอดเธอ
เซซิส ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กปัญญาอ่อน เพื่อให้ทั้งคู่ยิ้ม แต่สถานการณ์ตอนนั้นไม่สามารถทำให้สองพี่น้องยิ้มออกได้
จู่ๆเซซิส ก็ร้องขึ้นว่า “ดูสิดาโล แค่เริ่มก็ไม่สวยซะละ” เซซิส ทำหน้าเหยาหมิงใส่พวกเด็กๆ
พวกเด็กๆหันไปหาพ่อที่โผล่มาอยู่ข้างหลังพวกเขา
“อามูดาส ลูกไปเล่นกับเด็กคนอื่นๆที่สนามก่อนนะลูก เดี๋ยวทางนี้พ่อเคลียร์เอง”กษัตริย์พูด พร้อมยีฟันและชูนิ้วโป้งให้ อามูดาส
ปิเอโร่หันไปมองพี่สาวที่เดินออกไป แล้วหันมามองพ่อ “จริงรึป่าวครับท่านพ่อ..?”
“มันเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับลูกแล้วหล่ะ ปิเอโร่”กษัตริย์พูดอย่างเศร้าๆ
“เอ๋..? ผมหมายถึงมีเด็กๆ อยู่ที่สนามจริงหรือป่าวครับ.. ท่านพ่อหมายถึงอะไร?”ปิเอโร่ถามด้วยความซื่อของเขา
“ที่พ่อพูดไปหน่ะ หมายถึงว่า จะให้ลูกไปอยู่กับลุงเซซิสนี่ไง”กษัตริย์พูดพร้อมชี้ไปทางเซซิส ที่กำลังดึงหญ้าเล่นอยู่
“รับรอง เธอไม่ปลอดภัยแน่ เอ้ย! เธอเป็นอันตราย เอ้ย! เธอไม่เป็นอันตรายแน่ ถ้าไปอยู่กับฉัน” เขาพูดตะกุกตะกัก
ผิดๆถูกๆ พร้อมยิ้มกว้างมากที่สุดเท่าที่คนมีหนวดเคราเฟอะฟะจะยิ้มได้
…………………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………..
………………..จบตอนที่ 2........................
===============================================================================================
===============================================================================================
- Ch.3 Magic (เวทย์มนต์):
Ch.3 Magic (เวทย์มนต์)
ปิเอโร่มาอยู่กับเซซิสได้ เกือบปี แล้ว และวันนี้ เซซิสจะสอนการใช้พลังจิต คุยกับอะไรก็ตามที่มีชีวิตจิตใจ
ทั้งคู่เดินมาที่กลางป่า ใจกลางหุบเขา ที่ไหนซักแห่ง
“เอาหล่ะ ปิเอโร่ นั่งลงตรงนั้น” เซซิส ชี้ไปที่โคนต้นไม้ต้นใหญ่
“นั่งขัดสมาธิ แล้วทำใจให้ว่าง ค่อยๆหลับตาลง”
“กระแสจิตหมายถึงอะไรหรอครับลุง”
“กระแสจิต ก็คือ กระแสแห่งความรู้สึกไงล่ะ เจ้าจะส่งความรู้สึกไปที่อะไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้
เพียงแค่การคิด แล้วทำความคิดให้เป็นความรู้สึก เจ้าก็จะสามารถสื่อสารกับอะไรก็ได้ที่มีจิตใจ”
“เห็น กระรอกตัวนั้นไหม” เซซิสชี้ไปที่กระรอกที่อยู่บนกิ่งไม้เล็กๆ
“เจ้าลองส่งกระแสจิตไปหามันสิ จิตแห่งความรัก ความเมตตา”
“ครับ แล้วส่งกระแสจิตมันทำยังไงหรอครับ”
“มองในสิ่งที่ไม่ได้มองยังไงล่ะ ลืมตาขึ้น นึกคิดในจิตของอีกฝั่ง และส่งความรู้สึก ผ่านเข้าไปในสิ่งที่คิด เท่านี้เอง”
เซซิสพูดแบบง่ายๆ ทั้งๆที่มันยาก
“อ๋อ พอจะเข้าใจแล้วครับ”
ปิเอโร่ หลับตาลง และ รวบรวมสมาธิ ความรักใคร่ โอบอ้อมอารี ความมีเมตตา แล้วเขาก็ลืมตามองกระรอกตัวนั้น
“ไม่ เจ้าต้องรู้ว่าเจ้าไม่มองมันสิ เอาไหม่” เซซิสดูเข้มงวดมาก
“ใช้จิตใจ อย่าใช้สมอง” กระแสจิต ของเซซิส ผ่านเข้ามาในหัวปิเอโร่
“ได้ครับ” ปิเอโร่เริ่มลองอีกครั้ง
เซซิส ยืนกอดอก สถานการณ์ ตอนนี้เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมที่พัดใบไม้ และเสียงจิ้งหรีดเท่านั้น
ปิเอโร่ลืมตา สักพักกระรอกตัวนั้นก็ดูรนรานขึ้น แล้วก็มองมาที่ปิเอโร่ กระรอกตัวนั้นมันค่อยๆไต่ลงจากกิ่งไม้
และเดินเข้ามาไกล้ปิเอโร่ ปิเอโร่ยื่นมือไปหามัน มันก็เดินใต่ขึ้นมาที่มือแล้วก็นอนขดที่อุ้งมือ อยู่อย่างงั้น
“แล้วไงต่อครับ ลุงเซซิส” ปิเอโร่ละสายตาจากกระรอก หันไปถามเซซิส ที่กำลังยืนหลับน้ำลายไหลเยิ้ม
‘โอเค ได้เลย’ ปิเอโร่คิด พร้อมกับส่งกระแสจิต ไปหาเซซิส "ไฟป่ามาแล้วลุง!!!!"
“เฮ้ย อะไร อะไรๆ” เซซิส สะดุ้งขึ้นมาเตรียมพร้อมหนี น้ำลายที่ไหลก็เยิ้มเปื้อนหนวดเต็มไปหมด
“อ้าว ว่ายังไงปิเอโร่ ทำสำเร็จแล้วสินะ” เซซิสยิ้มเหมือนลุงผู้แสนดี ที่หลับตอนสอนวิชาให้หลาน
ทำให้กระรอก ตัวที่อยู่ในอุ้งมือของปิเอโร่ ไปหลบที่หลังคอเขา
“ผมว่าลุงไปล้างหน้าก่อนเถอะครับ มันค่อนค้างจะ ......เปื้อน” เซซิสได้ยินดังนั้นจึง เช็ดหน้าเช็ดตา
“อืม เจ้ารับกระแสจิตจากพวกสัตว์ได้รึยังหล่ะ”
“พูดแปลกๆ นะครับ ก็คนสอนมันดันหลับนี่นะ” ปิเอโร่พูดกัดเซซิส
“แหม่....พูดประชดประชันได้เก่งเหมือนพ่อเจ้าเลยนะ”
“มาๆ เดี๋ยวลุงจะสอนให้ พวกสัตว์ มันส่งกระแสจิตเองไม่ได้ เราก็ต้องเข้าไปดูจิตของมัน ว่ามันรู้สึกยังไง”
“แบบนี้ก็เหมือนอ่านใจสิครับ”
“ใช่แล้วหล่ะ แต่พวกสัตว์ จิตใจมันอ่อนแอกว่ามนุษย์มาก เราจึงเข้าถึงได้ง่ายกว่าไงหล่ะ”
“แล้วลุงเคยลองอ่านใจมนุษย์ไหมครับ”
“เคยสิ อ่านใจได้แต่พวกเด็กๆ น่ะ เพราะเด็กๆ จิตใจ ยังอ่อนแอ กว่าตอนโตมาก”
“แล้วการเข้าไปดูจิตใจของสัตว์ทำยังไงหรอครับ”
“ก็เหมือนกับการส่งน่ะแหละ แต้เจ้า ต้องส่งตัวเจ้าเข้าไป ไม่ใช่ความคิดของเจ้า แล้วเจ้าก็จะเห็นสิ่งที่มันคิดไงหล่ะ
ลองดูสิ แต่เจ้าจะแปลออกไหม มันก็อีกเรื่องนะ” เซซิสพูดแล้วยิ้มแบบแปลกๆ
ปิเอโร่เพ่งจิตเข้าไปในกระรอกที่อยู่หลังคอของเขา
ในความคิดของปิเอโร่ ทุกอย่างมืดสนิท มีเพียงคันโยกอันใหญ่ หนึ่งอันอยู่ตรงกลาง ที่ส่องแสงท่ามกลางความมืด
“เจ้าเห็นคันโยกนั่นไหม ดึงมันลง แล้วเจ้าก็จะเห็นจิตใจของกระรอกตัวนั้น” เซซิสพูดขึ้นเบาๆ
ปิเอโร่ดึงคันโยกอันใหญ่นั่น แต่มันฝืด มันติดอะไรซักอย่างมันไม่ยอมโยกลง และแล้วก็มีเสียงของเซซิสดังขึ้นมาอีก
“จิตใจเจ้าต้องเข้มแข็ง ไม่ใช่ร่างกาย โยกมันโดยไม่ต้องออกแรง”
ปิเอโร่ลดแรงลง และแตะคันโยกเบาๆ คันโยกนั่นเลื่อนลง เหมือนกับว่ามันลู่ตามมือของปิเอโร่เลย เมื่อคันโยกเลื่อนลงสุด
ในความคิดของเขาก็สว่างจ้าขึ้น จนเขาต้องหลับตา และค่อยๆลืมตาขึ้นมา
ในนั้นเขาเห็นภาพ เซซิสที่มีท่าทางหิวจัดกำลังมองมาที่เขา มีน้ำลายไหลเยิ้ม มีเขี้ยวแหลมคม และเล็บยาว
เขาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ เขาออกจากความคิดนั้น แล้วก็ลืมตาขึ้น
“รู้แล้วสินะ ว่ากระรอกตัวนี้มันรู้สึกยังไง” เซซิสถาม พร้อมกับแคะขี้มูก
“ครับ มันเห็นลุงเป็นยักษ์ มันคงคิดว่าลุงจะกินมันล่ะมั้ง” ปิเอโร่หัวเราะ
“ถ้าเจ้าเก่งกว่านี้ เจ้าแค่มองมันเจ้าก็จะรู้แล้ว ว่ามันต้องการอะไร หรือรู้สึกยังไง”
“เอาล่ะวันนี้ พอแค่นี้ก่อน ไปหาข้าวหาปลากินกันก่อนเถอะ
“ขรับโผ้มมมมมม”
ปิเอโร่ลุกขึ้น และเดินไปหาเซซิสที่กำลังปูพรมอยู่
“ทำไม ลุงไม่ซักพรมอันนี้บ้างหล่ะครับ”
“มันซักของมันเองได้น่ะ แต่มันขี้เกียจ” เมื่อปิเอโร่ได้ยินก็สงสัย
“หือ พรมมันซักเองได้ด้วยหรอครับ”
“ได้สิ ก็พรมวิเศษ มันก็ต้องพิเศษอยู่แล้ว” “มานั่งนี่”
ปิเอโร่เดินไปนั่งบนพรม แล้วจู่ๆ พรมก็ลอยขึ้น
“เอ้า นึกว่าปูพรมแล้วจะนั่งกินข้าวซะอีก แล้วถ้าพรมมันบินได้ จะเดินมาทำไมเนี่ย” ปิเอโร่ทำท่าเซง
“พรมมันก็ต้องการพักบ้าง ใช้งานมันหนัก มันก็หนีไปน่ะสิ”
ทั้งคู่บินกลับไปที่กระท่อม ที่เป็นที่พักของเซซิส
ระหว่างทางกลับ เซซิสพูดขึ้นมาว่า
“เวทย์มนต์ มันก็คือจินตนาการ ปิเอโร่ เจ้ามุ่งมั่นเท่าไหร่ มันก็จะกลายเป็นจริงมากเท่านั้น
แม้เจ้าจะไม่มีพลัง แต่แค่เจ้ามีความมุ่งมั่น มันก็จะเกิดขึ้นได้เสมอ”
…………………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………..
………………..จบตอนที่ 3........................
===============================================================================================
===============================================================================================
- Ch.3.5 Magics (เวทย์มนต์ ตอน 2):
Ch.3.5 Magics (เวทย์มนต์ ตอน 2)
8 เดือนผ่านไป ที่เซซิส ได้สอนให้ปิเอโร่ใช้จิต สื่อกับสัตว์ ปิเอโร่ก็ตั้งใจฝึกเสมอมา จนตอนนี้
ปิเอโร่สื่อกับสัตว์ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก
และในวันนี้ เซซิสจะสอนการใช้เวทย์มนต์จริงๆ ซะที นั่นก็คือ การเคลื่อนย้ายของ ด้วยพลังจิตเซซิสบอกให้ปิเอโร่มารอหน้าน้ำตก
ที่ ลำธาร ใกล้ๆ กับกระท่อมของเซซิส ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว ป่านนี้เขายังไม่มา
“เฮ้อ........ ไปทำอะไรอยู่นะ ตาแก่หนวดเฟิ้ม” ปิเอโร่พึมพำเบาๆ
“อ้อ ไปเยี่ยมเพื่อนมาน่ะ” เซซิส โผล่มาข้างๆปิเอโร่ ทำให้ปิเอโร่ตกใจ ตกลำธารไป เซซิสก็หัวเราะชอบใจ
“หนวดลุงมีประโยชย์นะเฟ้ย ฮิฮิ” แล้วเซซิสก็ไปดึงหลานขึ้นมาจากน้ำ
“เอาหล่ะ มาเริ่มกันดีกว่า คำถามแรก....”
“ผมน่าจะเป็นคนถามลุงมากกว่ามั้ง” ปิเอโร่พึมพำขึ้น
“เดี๋ยวจะโดนเตะ ไอ้นี่.... คำถามแรก ทำไมลุงถึงเลือกลำธาร รู้ไหม?”
“ไม่รู้จ้า...”ปิเอโร่ยกมือตอบ พร้อมกับทำหน้านิ่งๆ
“นั่นก็เพราะว่า มันมีหินเยอะไงล่ะ เราจะได้ ฝึกได้สะดวกๆหน่อย”
“เคลื่อนย้าย สิ่งของใช่ไหมฮะ” ตาปิเอโร่เป็นประกาย
“แน่นอน หลานรัก มันค่อนค้างจะฝึกง่ายน่ะ ลุงเลยเลือกวันนี้ ฮุฮุ”
“มันง่าย แล้วทำไมไม่สอนตั้งแต่แรกฟะ” ปิเอโร่คิดในใจ
“คิดให้มันเบาๆ หน่อย ไอหนู” เซซิสโยนก้อนหินเล็กๆ ใส่ปิเอโร่ ทำให้ปิเอโร่โกรธ
แล้วโยนหินใส่คืน แต่หินที่ปิเอโร่โยนไปกลับหยุดนิ่ง
“นี่ล่ะ ข้อดีของมัน เห็นไหม แต่ข้อเสียของมันก็คือ ตาต้องไว”
“หึ้ย อยากลองมั่งง่ะลุง สอนผมเร็ว สอนผม” ปิเอโร่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ช้าก่อนเจ้าหนูน้อย เจ้าต้องอ่านคำพวกนี้ให้ได้ก่อน” เซซิสยื่นกระดาษ ที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ให้ปิเอโร่
“บลาทัค ฟอนซ์ด้า เอล์ฟบิซ ฮูมบ์.... ฮอมบ์...มันอ่านว่าไรเนี่ย”
“ใช้จิตคุยกับมันดูสิ”
ปิเอโร่ เพ่งจิตไปที่กระดาษนั่น แล้วหันไปมองหน้าลุงด้วยความโกรธ
“นี่มันกระดาษ ธรรมดาใช่มั้ยลุง” เซซิสได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะลั่น กลิ้งไปกลิ้งมา
“ก็ธรรมดาน่ะสิ เจ้าคิดว่ามันจะวิเศษรึไง ดูก็รู้แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ” เซซิสหัวเราะเยาะหลาน
“โอเค ได้ ผมจะอ่านให้ได้เลย แปปนึงนะ”
ปิเอโร่จ้องไปที่คำว่า Huomb และสังเกตคำอื่นๆ
“มันมี 2 พยางค์ทุกคำเลยหนิ น่าจะเป็น ฮิวโอมบ์ นะ” ปิเอโร่หยิบปากกามาเขียน แต่ปากกามาจากไหน
ปิเอโร่หันไปมอง เซซิสที่นอนขวาไขว่ห้างทับปากกาเป็นร้อยๆ แท่งอยู่
เขาหันกลับมาขีดฆ่า Huomb แล้วใส่เป็น ฮิวโอมบ์แทน เขาจึงลองอ่านดูตั้งแต่แรก
“บลาทัค ฟอนซ์ด้า เอล์ฟบิซ ฮิวโอมบ์ อิคจ์ทรอสส์ คิมซ์พช์(คิ้ม – พิซ) ฮดูนเวห์ด(ดูน – เหวด) ฮเกย์ดันส์(เง – ดั้นส์)
ยิสเชียร์...ไม่สิ ยิสเชอร์ แวงค์คด์(แว้ง – คึ่ด) บวาฟบา มิกก์ซี่ พิชช์ซิพ ตรูนเซห์ ซแตส์พ(สะ – แต็บ) เยอห์เซ็ค”
ปิเอโร่ ไม่ทันจะท่องออกเสียง เซซิสก็พูดขึ้น
“เยี่ยมมาก เจ้าหนู เอาหล่ะ ทีนี้ตอบมาว่า คำแรกคือคำอะไร” กระดาษที่อยู่ในมือปิเอโร่ กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ กำโทษๆ
กลายเป็นใบไม้แห้ง
“เอ้า แล้วผมจะรู้มั้ยเนี่ย” ปิเอโร่ถามด้วยความงูล
“คิดสิ!” เซซิส ตะเบ็งเสียงใส่
ปิเอโร่คิด “เอ่อ..... คำแรกน่าจะตัวบี บาทง บาเทิง อะไรซักอย่างนี่แหละ มันต้องมี ทอ แน่ๆ
เอ้อ ต้องบลา ใช่แล้ว บลาทัค”
“บลาทัค ฮะลุง” ปิเอโร่ตอบอย่างมุ่งมั่น
“นั่นแหละ คำร่ายเวทย์เคลื่อนย้าย สิ่งของ แล้วเจ้าจำคำที่ 2 ได้ไหมละ”
“ได้ฮะ ฟอนซ์ด้า ผมจำได้ดีเลย อ่านแล้วรู้สึกเท่ๆ ยังไงไม่รู้”
“นั่นคือ เวทย์เคลื่อนย้ายเหมือนกัน แต่เคลื่อนย้ายได้เฉพาะสิ่งที่มีชีวิต ต่างจากอันแรก
ที่เคลื่อนย้ายได้เฉพาะสิ่งของไร้ชีวิต เข้าใจรึป่าว”
“มัวแต่ยืนยืนเก๊ก ได้ฟังรึป่าว!”
“ฟังดิครับ ถ้าผมบินโดยใช้ ฟอนซ์ด้า มันได้ป่าวฮับ”
“ได้สิ แต่กว่าจะถึงตอนนั้น เจ้าก็คงเป็นหนุ่มแล้วล่ะมั้ง ฮ่าๆ”
“เชอะ คอยดูสิ ผมจะเก่งกว่าลุงให้ดู”
“ฝันอยู่เรอะ ตื่นๆๆๆ” เซซิสเขย่าปิเอโร่ ที่ทำหน้าเซงแล้วหัวโยกไปมา เซซิส ก็หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว
“มาเลย ตาแก่ บอกผมว่าจะใช้เวทย์มนต์ยังไง”
“โอเค เพ่งจิต ไปที่สิ่งๆนั้น แล้วท่องคาถาซะ บู้มม หลังจากนั้นก็จินตนาการเอา ว่าจะให้มันเกิดอะไรขึ้น”
“ลุงขอแนะนำ ให้เอามือเข้าไปใกล้ๆ สิ่งนั้นด้วย กระแสจิตมันจะได้ไม่แผ่วก่อนจะถึงวัตถุ”
อธิบาย การชูมือของนักเวทย์(ความเห็นส่วนตัว)
แขนมีลักษณะเป็นท่อนยาว กระแสจิตจะผ่านออกไปได้เล็กกว่าการเพ่งมองไปเฉยๆ
ทำให้เวทย์มนต์มีประสิทธิภาพมากกว่า ตามภาพ
ปิเอโร่ยื่นมือ ไปหาหินก้อนใหญ่ “บลาทัค” พอปิเอโร่ท่องคาถาเสร็จ เหมือนมีพลังอะไรบางอย่างออกจากฝ่ามือของเขา
เขาจึงเพ่ง จิตไปที่หินก้อนใหญ่นั่น
ในความคิดของเขา เขาจะจินตนาการว่าหินลอยขึ้นมา แต่เขาไม่สามารถจินตนาการได้
“ลองจากก้อนเล็กๆ ก่อนสิ” เซซิสพูดขึ้นในขณะนอนหลับ เหมือนกับคนละเมอ
ปิเอโร่จึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นหินก้อนเล็กๆ แล้วเขาก็ท่องคาถาอีกครั้ง พอเขาจินตนาการหินลอยขึ้นอย่างตะกุตะกัก
เขาลืมตาขึ้น หินที่เขาจินตนาการให้มันลอยนั้น มันกำลังลอยอยู่จริงๆ ห่างจากมือของเขาไม่กี่เซ็น
แล้วเขาก็ย้อนไปคิด ตอนที่เซซิสเคยพูดไว้ว่า เวทย์มนต์คือจินตนาการอะไรซักอย่าง เขาไม่คิดเลยว่า เพียงแค่จินตนาการเท่านั้นเอง
แค่เพียงจินตนาการให้หินลอย หินมันก็ลอย
ปิเอโร่มัวแต่คิด จนหินร่วงไปตอนไหนยังไม่รู้เลย
“อย่าฟุ้งซ่านสิ เวลาใช้เวทย์มนต์ เพ่งอยู่กับสิ่ง สิ่งนั้นอย่างเดียว” เซซิสละเมอขึ้นอีกครั้ง
“เอาหล่ะ กลับกันเถอะ วันนี้เจ้าทำได้แล้วนี่ ครั้งต่อไป คงไม่ยากเท่าไหร่หรอกมั้ง”อยู่ๆเซซิสก็โผล่มายืนข้างๆปิเอโร่
น้ำลายเซซิสไม่ได้ไหล และดูไม่เหมือนคนนอนเลย
“ลุงครับ แล้ว ฟอนซ์ด้า หล่ะครับ”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ เพียงแค่ใช้กับสิ่งมีชีวิตไง” “ไปๆ กลับกันเถอะ หิวข้าวละ” เซซิสเดินตีท้องไปที่กระท่อมของเขา
ปิเอโร่ก็ตามลุงไป
…………………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………..
………………..จบตอนที่ 3.5........................
ผ๊มทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันน๊าน จนถึงวันเน้!!! ทุกอย่าง! มันต้องพึ่งตัวเอ๊งงง!!//สลบแบบโฆษณา
แก้ไขล่าสุดโดย Thoong เมื่อ Fri 27 Apr 2018 - 20:16, ทั้งหมด 8 ครั้ง
Thoong- Programmer
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 996
คำขอบคุณ : 41
Join date : 28/05/2010
: 28
ที่อยู่ : บ้านพักบนเขา ทางตะวันตกของเมืองไทยสติ๊กแมน
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Piero
EXP:
(0/2000)
status!?:status!? หน่วย HP 4/10
Re: Piero Story
ไม่มีใครอ่านเลยสินะ
Thoong- Programmer
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 996
คำขอบคุณ : 41
Join date : 28/05/2010
: 28
ที่อยู่ : บ้านพักบนเขา ทางตะวันตกของเมืองไทยสติ๊กแมน
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Piero
EXP:
(0/2000)
status!?:status!? หน่วย HP 4/10
Re: Piero Story
นั่งอ่านอยู่ค่ะ
nan_flippy@hotmail.com- Beginner Fighter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 115
คำขอบคุณ : 48
Join date : 22/04/2013
: 25
ที่อยู่ : -
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(25/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Piero Story
// อุ้มเด็กน้อยที่ชื่อปิเอโร่กลับบ้าน // 10 นาที่ต่อมาโดนเชือด
ปล. ปิเอโร่ตอนเด็กน่ารักเเละรอติดตามต่อนะเจ้าค่ะ>w
ปล. ปิเอโร่ตอนเด็กน่ารักเเละรอติดตามต่อนะเจ้าค่ะ>w
nan_flippy@hotmail.com- Beginner Fighter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 115
คำขอบคุณ : 48
Join date : 22/04/2013
: 25
ที่อยู่ : -
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(25/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
ParRoMa- Stick Killer
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 671
คำขอบคุณ : 23
Join date : 25/04/2012
: 24
ที่อยู่ : หอพักTSM/บ้านแถวๆทาวน์สแควร์ใจกลางเมือง และคฤหาสถ์อยุ่ตรงชานเมือง
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Corlerpy Marmela
EXP:
(244/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Piero Story
ตอน 3 มาแล้วจ้า :3
Thoong- Programmer
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 996
คำขอบคุณ : 41
Join date : 28/05/2010
: 28
ที่อยู่ : บ้านพักบนเขา ทางตะวันตกของเมืองไทยสติ๊กแมน
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Piero
EXP:
(0/2000)
status!?:status!? หน่วย HP 4/10
ParRoMa- Stick Killer
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 671
คำขอบคุณ : 23
Join date : 25/04/2012
: 24
ที่อยู่ : หอพักTSM/บ้านแถวๆทาวน์สแควร์ใจกลางเมือง และคฤหาสถ์อยุ่ตรงชานเมือง
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Corlerpy Marmela
EXP:
(244/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Piero Story
รอติดตามต่อครับ
//ปู่เสื่อรอ
//ปู่เสื่อรอ
AquanaKnight- Beginner Fighter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 194
คำขอบคุณ : 12
Join date : 29/07/2011
: 28
ที่อยู่ : ตึก TSM
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: AquanaKnight
EXP:
(382/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Piero Story
คนสอนยื่นหลับเนี้ยนะ-*-
nan_flippy@hotmail.com- Beginner Fighter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 115
คำขอบคุณ : 48
Join date : 22/04/2013
: 25
ที่อยู่ : -
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(25/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Piero Story
3.5 มาแล้วววว ฮว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก เดี๋ยวเพลงกำลังจะตามมา
Thoong- Programmer
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 996
คำขอบคุณ : 41
Join date : 28/05/2010
: 28
ที่อยู่ : บ้านพักบนเขา ทางตะวันตกของเมืองไทยสติ๊กแมน
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Piero
EXP:
(0/2000)
status!?:status!? หน่วย HP 4/10
Re: Piero Story
ยกย่องท่านเสมอ
tungmkzaza- Beginner Fighter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 141
คำขอบคุณ : 11
Join date : 08/12/2010
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(309/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Piero Story
รอตอนต่อไป
nan_flippy@hotmail.com- Beginner Fighter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 115
คำขอบคุณ : 48
Join date : 22/04/2013
: 25
ที่อยู่ : -
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(25/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Similar topics
» Brother Story เรื่องของพี่น้อง
» Story of Darkness
» My Fic Story
» The story of three child
» Advent Story
» Story of Darkness
» My Fic Story
» The story of three child
» Advent Story
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ