S.I.C 1: First Blood
หน้า 1 จาก 1
S.I.C 1: First Blood
นิยายเรื่องแรก ที่เขียนอย่างจริงจัง ของผู้ชายข้างถนน - -
- After Freedom part 1-2:
- ตอนที่ 1 After Freedom
“เฮ้! เจ้าบ้านั้น มันกำลังหนี” ชายคนหนึ่ง ตะโกนขึ้นมา ท่ามกลางผู้คนที่กำลัง ตื่นตระหนกอยู่กับ เหตุการณ์ก่ออาชญากรรม ของชายคนหนึ่ง ซึ่งมีอาวุธอยู่ในมือ
“บ้าเอ้ย! มากันเพียบเลยวุ้ย!” ชายผู้ซึ่ง ถูกไล่ล่าอยู่นั้น กำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนกระทั่ง...
(เสียงรถบรรทุกขนาดใหญ่บีบแตร)
“โครม!!!”
เสียงของรถบรรทุกขนาดใหญ่ ชน ชายที่ถูกไล่ล่านั้น เข้าอย่างจังทำให้ ร่างของเขานั้น กระเด็นไปอยู่ บนถนนอย่างน่าอนาถ....
“กรี๊ดดดด!!!!”
เลือดที่ไหลไปเต็มพื้นถนน ทำให้ คนที่เห็นเหตุการณ์นั้น รวมทั้ง ชายที่วิ่งไล่ล่าอยู่นั้น ต่างก็พลางได้แต่นิ่งเงียบ...
ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีรถตำรวจคันหนึ่ง ผ่านมาแถวนั้นพอดี จึงเลยขับไป ณ ที่จุดเกิดเหตุตรงนั้น...
“เฮ้ๆๆ หลีกทางให้ฉันหน่อย...เร็วเข้า!!?”
“โอ....ไม่นะ...”
.......
(เมื่อ 5 ชั่วโมงก่อนหน้านี้....)
...
“ท่านครับ! มันจะดีเหรอครับ”
“ไม่มีวิธีไหนแล้วล่ะ...ต่อให้ต้อง แลกด้วยชีวิตของฉัน....ยังไง! ก็ไม่มีทางให้ ลูกสาวฉันเป็นอะไรไปแน่!!”
ชายในวัยกลางคน พูดกับ ชายอีกคนที่ใส่แว่นตาดำ ซึ่งเป็นบอดี้การ์ด ของชายวัยกลางคน
“....”
“เอาล่ะ! เปิดประตูได้!” ทันทีที่ สิ้นเสียงในรถของ ชายวัยกลางคนนั้น เขาก็เปิดประตูรถออกไป
ณ ท่ามกลางแสงไฟของกล้องต่างๆที่กำลังถ่ายทอดสดของ ชายที่ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีน้ำเงิน มีบุคลิกที่ดูเข้มแข็ง และ ทะมัดทะแมง ราวกับ อัศวินที่พร้อมที่จะ จัดการกับทุกๆคน ที่เข้าใกล้เขา
“ท่านประธานาธิปดีค่ะ! ดิฉัน แอชเลน การด์เดอร์ จากสำนักข่าว CNN ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ!”
คนจากสำนักข่าว CNN กำลังทำการสัมภาษณ์ กับชายเสื้อสีขาว โดยในขณะที่เธอนั้นเอง ก็ยังรู้สึกหัวเสีย กับแสงแฟรชของกล้องถ่ายรูปและ คนจากสำนักข่าวอื่นๆที่ มาทำข่าวนี้กันด้วย
“ท่านค่ะ! ไม่ทราบว่า ท่านมีมาตรการในการจับกุม “ชายที่ไม่ควรเอ่ยชื่อ” อย่างไรบ้างค่ะ!?” แอชเลน ถามคำถามกับ ท่านประธานาธิปดี ก่อนที่เธอนั้น จะถูกเบียดออกไปจากการชุลมุนของนักข่าวต่างๆ
“ผมคิดว่า มันคงจะเป็นอะไรที่เสี่ยงมากนะ...รู้มั้ย?” ชายเสื้อขาว ตอบกลับ พร้อมกับ ก้มหน้าเดินฝ่าออกไป
“แล้วตอนนี้ ท่านคิดว่า ท่านมีกำลังสนับสนุนมากพอบ้างมั้ยครับ?”
“เอ่อ....ผมคิดว่า มันอาจจะไม่สามารถทำให้ “ชายที่ไม่ควรเอ่ยชื่อ” เขานั้น หยุดการกระทำของเขาได้ แต่ว่า...ตอนนี้ ทางเราเองก็ กำลังยุ่งอยู่กับการ จัดเตรียมกำลังพลบ้างเล็กน้อยน่ะครับ”
“ท่านประธานาธิปดีครับ แล้วท่านคิดว่า ตอนนี้ลูกสาวของท่าน ที่โดนจับตัวไปน่ะครับ...”
ชายคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในผู้จัดทำข่าว ของสำนักหนึ่ง เอ่ยขึ้นมา
“ผมจะไม่ปล่อยมันไว้เด็ดขาด!!! เจ้าบ้านั้น!!? หากมันทำให้ ลูกสาวของฉันบาดเจ็บแม้แต่ นิดเดียว!!? ฉันไม่มีทางให้อภัยแกแน่!!”
ทันใดนั้น ชายเสื้อขาว ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดุ จนทำเอานักข่าวที่มาสัมภาษณ์นั้น เงียบไปตามกันเลย
....
หลังจากที่ ท่านประธานาธิปดี กล่าวคำสัมภาษณ์ให้กับ นักข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทันใดนั้น เขาก็เดินขึ้นไปบนเวที ซึ่งอยู่ห่างจากทำเนียบขาวประมาณ 500เมตร เพื่อออกมาแถลงการณ์ มาตรการณ์ กำจัด “ชายที่ไม่ควรเอ่ยชื่อ” ออกไป
....
(ณ บนสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งถัดไปจาก จุดที่มีการแถลงการณ์ ประมาณ 2,000 เมตร)
....
ชายคนหนึ่ง กำลังงุ่นอยู่กับ กล้องส่องทางไกล ที่เขานั้น ได้ทำตกไปก่อนที่จะ เดินขึ้นมาบนตึกแห่งนี้
“บ้าเอ้ย!! กล้องเสียอีกแล้ว!! โว๊ะ!! แล้วจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”
ชายที่เป็นเจ้าของกล้องส่องทางไกล เอ่ยขึ้นมาด้วยความรำคาญ ก่อนที่เขาจะทำการ หยิบกล้องอันใหม่ขึ้นมาอีกอัน
“แกอย่าบ่นมากนักน่า....ก็ ท่านประธานาธิปดีน่ะ ท่านอุตส่าห์หา กล้องนั่น มาให้เราแบบดีๆเชียวนะ”
ชายอีกคน พูดกับ เจ้าของกล้องส่องทางไกล ด้วยความที่ตัวเองนั้น ก็กำลังประกอบปืนไรเฟิล อย่างช้าๆ
“เอาล่ะ! เสร็จแล้วล่ะ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“เฮ้ย! นี่มัน ปืนอะไรว่ะเนี่ย!!?”
ชายเจ้าของกล้อง เอ่ยออกมาด้วยความตกตะลึง กับปืนที่ชายอีกคนถืออยู่ ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลที่มี ลักษณะเด่นก็คือ มีลำกล้องปืนที่ ใหญ่กว่า ปืนไรเฟิลปกติโดยทั่วไป รวมทั้งปากกระบอกปืน ที่ยาวกว่าปืนไรเฟิลปกติ
“ฮ่ะๆ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแหะ แต่ว่านะ หนักใช้ได้เลยล่ะ!!” ชายที่ถือปืนอยู่ ยกปืนของตัวเองแล้ววางขาของ กระบอกปืน ไปที่ตำแหน่งที่ ระบุเอาไว้ อย่างเหนื่อยล้า เพราะปืนไรเฟิล มีน้ำหนักมาก
“เฮ้! ฉันมีเรื่องอยากจะถามนายหน่อย”
“หือ?”
“แกว่า....ถ้าเสร็จงานนี้แล้วเนี่ย...แกว่า แกจะทำอะไรต่อจากนี้ว่ะ เพื่อน?” ชายอีกคน พูดขึ้นมา ราวกับว่า เขาพอจะเห็นอนาคตต่อจากนี้ไป
“เอ๋? ฉันเหรอ? ฮ่ะ! ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ฉันว่า....ฉันอาจจะไปที่ Burger King สักครั้งนึงว่ะ!!?”
ชายที่กำลัง ตั้งศูนย์เล็งปืน ตอบกลับ
“งั้นเหรอ? แกคงจะไปสารภาพรัก กับเธอคนนั้นสินะ.”
“เฮ้ย!!!! จะบ้าเหรอ!!” ชายที่เล็งปืน เอ่ยขึ้นมา พลางหน้าแดงเพราะคำพูดจาก เพื่อนของเขา
“ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! แกนี่มันเขินเป็นกับเขาด้วยรึเนี่ย!?”
“ปล่าวเขิน ซะหน่อยเฟ้ย!!?”
ในขณะที่ ทั้งสองคนนั้น กำลังพูดคุยกันอยู่สนุกสนาน ในขณะที่ ทางด้านของ ท่านประธานาธิบดีนั้น ก็ได้ขึ้นเวทีเพื่อมาพูดเรื่อง มาตรการกำจัด “ชายที่ไม่ควรเอ่ยชื่อ” พร้อมทั้ง แผนการช่วยเหลือ ประชาชนที่อยู่ในเมือง เรียบร้อยแล้ว
......
ณ สถานที่นึง ซึ่งเป็นตึกร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ ในละแวกเดียวกับ จุดที่มีการแถลงการณ์
“หึหึหึ.......ได้เวลาเริ่มงาน แล้วสินะ...หวังว่า คุณคงไม่ทำให้ผมผิดหวังนะครับ..ท่านประธานาธิบดี” เสียงของชายลึกลับ อายุหน้าจะราวๆ 16 เอ่ยขึ้นมา
“ฉันหวังว่า เธอคงดีใจนะ...จริงมั้ย? หึหึหึ~~!” ชายลึกลับพูดขึ้นมา พลางยิ้มอย่างพอใจ แต่แฝงไปด้วยความโหดร้าย และความน่ากลัวที่ไม่สามารถ อธิบายเป็นคำพูดได้เลย...
........
- After Freedom Part 2-2:
- Chapter 1: After Freedom (Part 2-2)
หลังจากที่ พวกตำรวจ รวมทั้งนักข่าวได้มาที่ ทำเนียบขาว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายใส่เสื้อสีขาวนั้น ซึ่งเป็นประธานาธิบดี ก็ได้ขึ้นไปบนเวที เพื่อที่จะเตรียมแถลงการณ์เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อท่านประธานาธิบดีขึ้นมาบนเวที เสียงตบมือของบรรดาสื่อมวลชนต่างๆ ก็ดังขึ้น ราวกับเสียงนั้นดัง ไปทั่วทั้งโลก
“ขอสวัสดีทุกคน ที่มาฟังผมในครั้งนี้ รวมทั้งพวกคุณที่ดูอยู่ที่บ้าน ในวันนี้ด้วยนะครับ” ท่านประธานาธิบดี กล่าวสวัสดีกับสื่อมวลชน
“วันนี้ ก็ถือว่า เป็นวันที่ อากาศไม่ค่อยจะเต็มใจ สักเท่าไหร่เลยนะครับ” ท่านประธานาธิบดี หัวเราะเบาๆ พลางทำหน้ารู้สึกไม่ค่อยดี ที่วันนี้เป็นวันที่มีฟ้ามืดครึม
“เอาล่ะ! ณ วันนี้เราทุกคนที่มาร่วมกัน ยืนอยู่ที่นี่ ผมอยากจะให้ทุกคนคิดว่า พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกัน!!”
“ในตอนนี้ เราคิดกันว่า “เขา” คนนั้น ทำอะไรให้กับเราไว้บ้างมั้ย?”
ท่านประธานาธิบดี ชำเลืองมองไปรอบๆที่ซึ่ง มีทั้งสื่อมวลชน และ ประชาชนมากมายที่กำลังฟังเขาอยู่
“ใช่!? ทุกคนคิด ในสิ่งที่ผมกำลังคิด.... พวกเราคือ หนึ่งเดียว ที่จะหยุดยั้งเขาได้!”
ท่านประธานาธิบดี ขึ้นเสียงพูดใส่ ประชาชนรวมทั้ง สื่อมวลชนที่ทำข่าวอยู่ หยุดเงียบทันที
“....”
ในตอนนี้ บรรยากาศทั้งหมดเริ่มเงียบมากขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น หยุดนิ่งลง มีเพียงแต่เสียงฝนที่กำลังร่วงโรยมาอย่างหนัก และเสียงของเฮลิคอปเตอร์ ที่บินไปทั่วทั้งทำเนียบขาว เพียงแห่งเดียว
“เอาล่ะ! ผมคิดว่า ทุกคนคงจะเข้าใจ...” ทันที ที่ท่านประธานาธิบดี พูดจบ เขาก็ได้สังเกตไปบนตึก แล้วพบว่า มีคนกำลังเล็งปืนมาที่เขาอยู่ เพื่อหวังที่จะปลิดชีพเขา กลางฝูงชน
“โอว...ให้ตายสิ..”
ทันใดนั้น! เสียงปืนจากบนดาดฟ้าก็ดังขึ้น!!
“ปัง!?”
กระสุนปืนได้พุ่งตรงไปยังที่ ท่านประธานาธิบดี อย่างเร็วเพื่อ หวังที่จะปลิดชีพเขา แต่ทว่า ท่านประธานาธิบดีนั้น วิ่งหลบกระสุนได้ก่อน จึงทำให้กระสุนนั้น ทะลุไปยังชายชุดสูท ที่เป็นบอดี้การ์ดของ ท่านประธานาธิบดีซะก่อน...
“กรี๊ด!!!!??!?” ทันใดนั้น ก็มีเสียงกรี๊ดจาก หญิงสาวคนหนึ่ง ที่ได้สังเกตว่า มีคนกำลังโดนยิงเข้าที่หัวอย่างจัง ข้างๆท่านประธานาธิบดี
“ให้ตาย!! พวกเราถูก ซุ่มโจมตี!!?” นายทหารคนหนึ่ง ตะโกนขึ้นมา ในขณะที่ ทางตำรวจนั้นก็ กำลังเรียกกำลังเสริม เพื่อเข้าไปช่วย คุ้มครอง ท่านประธานาธิบดี โดยอีกส่วนหนึ่งนั้น ก็ได้ เตรียมกำลังเพื่อวิสามัญ คนร้ายอยู่
“โอเคๆ ขอให้ทหารทุกหน่วย พาผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกไปจากที่นี้!! เร็วเข้า!!”
“เร็วเข้า!! เราไม่มีเวลาแล้ว!!?”
ทหารที่ประจำการอยู่ในบริเวณนั้น ได้บอกให้ สื่อมวลชนทุกคนรีบวิ่งหนีมายัง ที่ปลอดภัย ก่อนที่ มือสังหารนั้น จะทำการสังหารอีกครั้งนึง
“ท่านครับ!!? ท่านจะไปไหนเหรอครับ!?” บอดี้การ์ดคนหนึ่ง ได้ถามท่านประธานาธิบดี ในขณะที่ตัวเองนั้น ก็กำลังพา ท่านประธานาธิบดี วิ่งหาที่กำบัง
“พาฉันไปหา เจ้ามือสังหารนั้น เดี๋ยวนี้!!?”
“แต่ท่านครับ...จะดีเหรอ...”
“ฉันบอกให้พาฉันไป เดี๋ยวนี้!!”
ทันใดนั้น ท่านประธานาธิบดีก็ได้กระชากมือตัวเอง ออกจากมือของบอดี้การ์ด ทันทีที่เขานั้นไม่ทันตั้งตัว
“ท่านครับ!!? ระวัง!!?” บอดี้การ์ดคนหนึ่ง ตะโกนบอก ประธานาธิบดี ก่อนที่เขานั้นจะโดน ทหารลากไปที่ปลอดภัยก่อน
ในขณะที่ เหตุการณ์นั้นกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้นเอง!! ก็ได้จรวด อาร์พีจี พุ่งมายังท่านประธานาธิบดี ในขณะที่เขากำลังมุ่งหน้า ไปหามือสังหารนั้นอยู่ ซึ่งมีระยะห่างเพียงแค่ 2000 เมตรเท่านั้น!!
แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง จรวดนั้นก็ได้ระเบิดขึ้นกลางอากาศ ทำให้ประธานาธิบดีนั้น ได้กระเด็นออกไปอย่างแรง แต่ก็นับว่าโชคดี ที่ได้มีนายทหารใจกล้าคนหนึ่ง วิ่งเข้าไปคุ้มกันไว้ได้ทัน
“เฮ้อ!! เกือบจะเละไปแล้วมั้ยล่ะ...” นายทหารคนนั้น ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ก่อนที่เขานั้นจะพาตัว ท่านประธานาธิบดี ออกไป
“เฮ้! เจค!? พวกเราเจอแจ๊คพอตล็อตใหญ่ ว่ะเพื่อน!!?” เสียงวิทยุของนายทหารชื่อ “เจค” ดังขึ้นมา ในขณะที่เขานั้นก็ได้ วิ่งไปหยิบปืน SCAR-H ที่หล่นบนพื้น
“อะไรน่ะ?” เจคตอบกลับไป
“ตอนนี้ ฉันได้พบกับ กลุ่มผู้ก่อการร้าย มาว่ะเพื่อน!?”
“แล้วตอนนี้ มันมากันกี่คนล่ะ?”
“คงจะ พอๆกันกับ ฝูงมดเลยล่ะมั้ง..” เสียงจาก นักบินคนหนึ่ง ได้พูดไปยัง เจค ในขณะที่เขานั้น กำลังบินรอบๆ บริเวณ ทำเนียบขาวอยู่...
“เอาล่ะ! ตอนนี้ ฉันเจอ ท่านประธานาธิบดีแล้วล่ะ! แบรด!? นายช่วยส่ง กำลังมาให้ฉันด้วยด่วน! บอกทางกองทัพ ช่วยส่งคนมาช่วยโดยด่วน!?” เจคตะโกนทางวิทยุ อย่างเร่งรีบ
“ท่านครับ! พวกเรารีบไปกันก่อน เถอะครับ! เดี๋ยวทางนี้ เราจะจัดการเอง” เจคพยุงตัว ท่านประธานาธิบดี ในขณะที่เขานั้นได้รับบาดเจ็บ จากการ ถูกสะเก็ดระเบิด
“ม...ไม่ได้...พาฉัน...ไปหาเจ้า...มือสังหา..” ในตอนนั้นเอง ท่านประธานาธิบดี ได้สลบลงไป ในระหว่างที่เขานั้น ถูกพยุงตัวออกไปจากเจค พร้อมทั้งได้รับ บาดแผลสาหัสมาก ที่แขนและลำตัว
“ท่านครับ! ท่าน!!” เจครีบตะโกนขอความช่วยเหลือ ซึ่งในขณะนั้นเอง ทางตำรวจสหรัฐ ก็รีบนำตัว เจค และ ท่านประธานาธิบดีไปยังที่ปลอดภัย อย่างหวุดหวิด ซึ่งถือว่านับว่าโชคดีมาก เพราะถ้าหากมาช้ากว่านี้ละก็... พวกเขาทั้งสอง คงจะไม่รอดจาก เหตุการณ์ ก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญ ครั้งนี้ซะแล้ว...
......
....
..
.
ณ จุดที่ห่างจากเหตุการณ์อาชญากรรม ประมาณ 12 ไมล์ ได้มีชายคนหนึ่ง สวมเสื้อกันฝนเก่าๆ สีน้ำตาล ปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากากกันแก๊สพิษ ถุงมือสีดำ รองเท้าสีดำ คล้ายๆกับรองเท้าของทหาร กำลังอยู่ในตู้โทรศัพท์ ซึ่งในขณะนั้นเอง ฝนก็กำลังตกอย่างกระหน่ำ ด้วยเช่นเดียวกับ ที่ทำเนียบขาวนั้น...
“ท่านครับ....ตอนนี้ เราได้ส่งกำลังเข้าไปชิงตัว ท่านประธานาธิบดี แล้วครับ..”
“หา? งั้นหรือ! ถ้างั้นไหนๆ นายก็อยู่แถวๆนั้น...ช่วยจัดการแทนฉันหน่อยละกันนะ.ตอนนี้ฉัน กำลังเล่นสนุก กันอยู่น่ะ ฮะๆ”
“ครับ.”
ชายหน้ากากแก๊สพิษ วางหูโทรศัพท์ลงอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะเดินออกไป และมุ่งหน้าไปยังที่ บ้านหลังหนึ่ง...
“ก็อกๆ”
“สวัสดีค่ะ...มีอะไรเหร....โอว.” หญิงสาวคนหนึ่ง เปิดประตูบ้าน แล้วจากนั้น เธอก็ต้องรู้สึกตกตะลึง กับชายแปลกหน้าคนนึง ซึ่งเขาใส่ หน้ากากกันแก๊สพิษ รวมทั้ง การแต่งตัวที่ต่างจากคนอื่นๆ
“ขอโทษนะครับ...ผมขอยืม ตัวคุณหน่อยนะ” ชายคนนั้น กล่าวกับ หญิงสาวที่เปิดประตูบ้านเข้ามาต้อนรับ ก่อนที่เธอนั้นจะถูก กระชากตัวไปพร้อมทั้งชายหน้ากากแก๊สพิษ ที่มี อาวุธปืนอยู่ในมือ
“เฮ้! ด..ด...เดี๋ยวก่อน...เข้ามาในบ้านฉันก่อนสิ...” หญิงสาว พยายามเจรจากับชายคนนั้นเพื่อ พยายามไม่ให้เขานั้น ใจเย็นลง
“หุบปาก..” ชายคนนั้น พูดออกมา ด้วยน้ำเสียงนิ่งเงียบ ราวกับ เขารู้ว่า เขาควรจะทำยังไง หากว่าเธอนั้นยังไม่เงียบ
“....” หญิงสาวพลางก้มหัวลง และเดินตามไปกับ ชายคนนั้น เพื่อไปยังบริเวณที่ ชายลึกลับอยู่...
....
ณ ทางด้านของ ชายลึกลับ ที่กำลังสังเกตเหตุการณ์อยู่...
....
ชายลึกลับ กำลังใช้กล้องส่องทางไกลส่องไปยัง ท่านประธานาธิบดี ในขณะที่ตัวเองนั้น ก็กำลังสั่งให้ ผู้ลอบสังหาร วางแผนชิงตัว ท่านประธานาธิบดีอยู่
...
“ได้เรื่องรึยังล่ะ?” ชายลึกลับ พูดกับ ผู้ลอบสังหารนามว่า “เคธ” ซึ่งหล่อนเป็น คนที่ยิงปืนใส่ ท่านประธานาธิบดี
“ยังเลยค่ะ....ตอนนี้ รู้สึกว่า พวกทหารกำลัง ล้อมพวกเราไว้อยู่” เคธตอบกลับ
“’งั้นเหรอ? งั้นเดี๋ยวฉัน ส่งคน ไปรับเธอเองนะ เคธ.” ชายลึกลับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขรึมๆ
“หา! จะดีเหรอค่ะ! ท่าน!” เคธอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ
“ฉันพูดจริงน่า...เดี๋ยวฉันจะจ่ายให้ เป็นพิเศษเลย..” ชายลึกลับ พูดจากหวานๆกับ เคธ ก่อนที่เขานั้นจะวางสายลง แล้วเดินเข้าไปดู เด็กหญิงวัย 15 ปี ที่กำลังสะลืมสะลืออยู่บนเก้าอี้
“ไงล่ะ! ท่าทางเธอคงจะ สบายดีใช่มั้ย?”
“....”
“ฮะๆ ไม่ต้องห่วงหรอก....เดี๋ยวเธอก็ได้สบายแล้ว...” ชายลึกลับ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความน่ากลัว ก่อนที่ เขานั้นจะหยิบปืนขึ้นมาแล้วจ่อเข้า ใบหน้าของเด็กหญิง 15 ปี อย่างไม่มีความปราณี
“บอกลา พ่อของเธอด้วยล่ะ....ฮารุกะ~~” ชายลึกลับ เอ่ยนามของเด็กสาวขึ้นมา ก่อนที่จะลั่นไกปืน
แต่แล้วทันใดนั้นเอง!!!
มือขวาที่กำลังถือปืนอยู่ของชายลึกลับ ก็ถูกบางสิ่งตัดขาดไป ทำให้เขานั้นกรีดร้องอย่างเสียงดัง
“อ้าก!!!!!” เขากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“กรี้ด!!” ฮารุกะ ส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“น...นี่มัน ฝีมือใครกันแน่ว่ะ!! ไอ้สารเลวเอ้ย!!” ชายลึกลับ สบถออกมากด้วยคำหยาบคาย
และทันใดนั้น ก็มีชายคนหนึ่ง เดินเข้ามาพร้อมกับใบมีดที่มี รูปร่างคล้ายดาวกระจาย ที่เขาถืออยู่ในมือ โดยมีหญิงสาว
อยู่ข้างหลังเขาเป็นตัวประกัน
“หึหึหึ~~! แกคิดจะทำอะไร เด็กคนนั้นน่ะ...” ทันใดนั้นชายลึกลับ ก็ต้องตกตะลึงเพราะเป็นชายที่ถูกจ้างวานให้ไปสังหาร ประธานาธิบดีนั้นเอง
“แก! เคออส....แกคิดจะหักหลัง หัวหน้าตัวเอง งั้นเหรอ!!” ชายลึกลับ รู้สึกโกรธมากจนเลือดขึ้นหน้า ราวกับภูเขาไฟกำลังปะทุอยู่อย่างดุเดือด
“หึหึ.....ผมไม่ได้หักหลังคุณหรอกครับ...เพียงแต่ คุณน่ะ...คิดจะ เล่นสนุกตอนที่ผมไม่อยู่รึไง..หึหึ~~!” เคออส กล่าวด้วยท่าทีที่เย็นชา พร้อมทั้งคำพูดที่ยียวน กวนประสาท ทำให้ชายลึกลับนั้น รู้สึกโมโหมากขึ้น จนเขาอยากจะฆ่า เคออส ใจจะขาดอยู่แล้ว
“แก!!!!!!” เพราะความโทสะของ ชายลึกลับ เขาจึงใช่ปืนยิงไปยัง เคออส ด้วยมือข้างซ้ายของเขาที่ยังคงใช้งานได้อยู่
แต่กลับว่า ในตอนนั้นเอง เคออสได้กระชากตัว หญิงสาว ที่เป็นตัวประกันมาป้องกันกระสุน โดยที่เขานั้นกลับไม่รู้เลยว่า หญิงสาวนั้น กำลังถูกยิงอย่างทรมานและสาหัสมาก
“หึหึหึ~~! กระจอกดีจังนะแกน่ะ!!” ทันใดนั้น!! เคออสก็ปาใบมีดไปที่ ชายลึกลับทันที ทำให้มือของเขานั้น ถูกตัดไปอีกข้างหนึ่ง
“ไอ้บ้าเอ้ย!!!” ชายคนนั้น ร้องออกมาราวกับ กำลังจะตาย
“เฮ้!! แค่ Tri-Blade อันเดียวเนี่ยนะ...ยังทำลายมันไม่ได้? นี่น่ะเหรอ? ฝีมือของ ”หัวหน้าหน่วยงูพิษแนวหน้า” เคออส พูดเยาะเย้ย ชายลึกลับ พลางควงมีดที่ตัวเองถืออยู่ในมืออย่างระมัดระวัง ในขณะที่ เลือดของ ชายลึกลับ คนนั้นก็เริ่มจะไหลออกมาเรื่อยๆ
“โอ๊ะ! ดูเหมือนว่ามือแกจะขาดทั้งสองข้าง แล้วสินะ” เคออสพูดกับ ชายลึกลับที่กำลังเดินไปหาเขาอย่าง ทรมาน
“ก...ก...แก!!” แต่กลับว่า ชายคนนั้นยังไม่ยอมละเลิก จึงเลยใช้กำลังทั้งหมดเท่าที่มี วิ่งไปยัง เคออส
“ยังสนุกไม่พอเหรอ?.... งั้นฉันจะไม่ปราณีล่ะนะ!” ทันใดนั้นเอง ก็มีภาพบางอย่าง โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังของ เคออส เป็นภาพของ ชายที่กำลังร้องไห้อยู่กับ ลูกสาวของตนเองที่โดนสังหารอย่างเลือดเย็น ในขณะที่ชายอีกคน ก็กำลังจ่อปืนไปที่หัวของชายคนนั้น พร้อมกับยิ้มด้วยความสุข แต่แฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม
“หึหึ....นี่สินะ...ความทรงจำ อันเลวร้ายของแก...” เคออส มองไปยังภาพเหล่านั้น อย่างมีเล่ห์ใน
“อย่านะ!! ไม่!!! ลูกสาวฉัน!!” ชายลึกลับ คนนั้นตะคอกใส่ เคออส พลางหยดน้ำตาเริ่มไหลออกมา
“หึหึ.....สมใจอยากละสิ!! แกเห็นแล้วใช่มั้ยล่ะ!. ภาพของลูกสาวแกที่ โดนข่มขืนพร้อมกับถูกฆ่าตายในสุดน่ะ!! กับแกที่แทนที่จะฆ่าพวกเขา แต่แกกลับ คุกเข่าแล้วร้องไห้น่ะ? ฮะ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” เคออส เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ทำเอา ฮารุกะที่กำลังมองการต่อสู้อยู่ รู้สึกเหงื่อแตกเลยทันที
“หึหึหึ~~! ฉันจะทำให้ ติดอยู่ในห้วงแห่ง ความฝันร้ายของฉันซะ!!” และทันใดนั้นเอง!! ชายคนนั้นก็รีบวิ่งออกไปจากตึกนั้น อย่างหวาดกลัว เพราะว่า ภาพที่เคออส สร้างขึ้นมา ในจิตใต้สำนึกของเขานั้นเอง...
......
จบ Chapter 1 After Freedom (Part 2-2)
- Viper and Basilisk:
- Chapter 2: Viper and Basilisk
หลังจากที่เหตุการณ์ก่ออาญชากรรมผ่านไป 5 ชม. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ก็ได้ทำการปิดล้อมและเคลียร์พื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์โดยทันที
ก่อนที่จะทำการ ปล่อยตัวสื่อมวลไปทำข่าว ส่วนทางด้านของท่านประธานาธิปดี ก็ได้ถูกนำไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว....
"เฮ้! เจค! ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?" เสียงจากพลทหารท่านหนึ่ง ดังมาจากวิทยุของเจค
"อืม.ทางนี้ไม่มีปัญหา แล้วทางนั้นล่ะ?"
"ไม่มีใครบาดเจ็บดี....งั้นฉันของ ฝากนายดูแลทางนั้นด้วยล่ะ!"
"โอเคครับ!"
เจค จบการสนทนากับ พลทหาร ก่อนที่จะเริ่มเดินไปที่ รถฮัมวี่หุ้มเกราะลายพรางสีนํ้าตาล ซึ่งจอดห่างอยู่จุดที่เกิดเหตุ เพียงไม่กี่เมตร...
จะว่าไปแล้ว เจค ก็ถือเป็นคนที่เคร่งครัดในหน้าที่เหมือนกับ ทหารคนอื่นๆ เพราะว่า ทุกครั้งที่เขานั้นทำภารกิจเสร็จ เขามักจะไม่ลืมคำพูดของ ผู้บัญชาการเสมอ
ว่า "บางที...สิ่งที่เรามองไม่เห็น อาจจะเป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ได้"
แต่เพราะวันนี้ซึ่ง อากาศไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ เขาจึงเลยต้องยอมเดินเปียกฝนไปไปอย่างน่าลำบาก กับฝูงสื่อมวลชนที่ต่างกรูเข้ามา ทำข่าวอย่างยุ่งเหยิง
แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น... เพราะประเด็นหลักอยู่ที่ หญิงสาวที่กำลังวิ่งมาหา เจค ต่างหาก
เจค กำลังเดินกวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อตรวจสอบร่องรอยของ ผู้ลอบสังหาร อย่างกวดขัน จนกระทั่งนั้น เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาหาเขา อย่าง
เร่งรีบ..
"เฮ้! คุณกำลังจะไปไหนน่ะ!" หญิงสาวคนนั้น ถาม เจค ในระหว่างที่เขานั้น กำลังเดินไปที่รถ
"มีอะไรเหรอครับ?" เจคหันไปสบตา หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขา
"ดิฉัน เป็นเจ้าหน้าที่มาจาก FBI.เราอยากขอสอบถาม ข้อมูลของคุณหน่อย...." หญิงสาว กล่าวขึ้นมา
"เอ่อ....ได้ครับ..." เจค ตอบตกลง และก็ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับ เหตุการณ์เมื่อ 5 ชม. ก่อนหน้านี้
..............................................................................
ณ เกาะแห่งหนึ่ง ที่ไม่ระบุที่ตั้ง....
ได้ปรากฎเป็นภาพของ ชายสองคน ที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ในห้องที่มีแสงไฟ จากหน้าจอ มอนิเตอร์
"ตกลงว่า คุณจะยอมให้ผม ทำโปรเจคนี้จริงๆเหรอ?" เสียงของชายคนหนึ่ง ได้กล่าวขึ้นมา เป็นชายอายุราวๆ 40 ปี แต่งตัวเหมือนนักธุรกิจ
"ก็ใช่น่ะสิครับ.....อยู่ที่ว่า คุณจะยอมรับข้อเสนอของผมรึเปล่าล่ะ?" ในขณะที่ชายอีกคน ก็พูดขึ้นมา พลางหยิบไวน์ราคาแพงรินที่แก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
เขานั้น แต่งตัวคล้ายกับ นักธุรกิจคนนั้น แต่ว่า อันด้วยท่าทางที่ดูเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยม ทำให้นิสัยของเขานั้น ต่างจากชายคนนั้นลิบลับทีเดียว..
"แต่ว่า.....คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ? ว่าหากเราทำแบบนั้น...ก็เท่ากับว่า เราหักหลังพวกเขาน่ะ!!"
ทันใดนั้น ชายที่เป็นนักธุรกิจ ก็ลุกขึ้นมา โต้เถียงกับอีกฝ่ายอย่างไม่เห็นด้วย
"อ๋อ....งั้นเหรอ? งั้นตกลงว่า คุณจะไม่ร่วมทำโปรเจคนี้สินะ...." ชายอีกคนก็ ยิ้มมุมปาก อย่างรู้ได้ทันทีเลยว่า เขานั้นจะต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน
และทันทีที่เขาพูดจบ ชายคนนั้น ก็หยิบมีดพกสั้นขึ้นมา แต่ด้วยเพราะห้องที่มีแสงไฟมืดสลัว ชายวัยสี่สิบ จึงเลยไม่ทันได้สังเกต
"งั้นถ้าหากว่า ผมจะฆ่าปิดปากคุณล่ะ?"
"ฮ่ะ? อย่าบอกนะว่า......"
ยังไม่ทันที่ชายวัยสี่สิบ กำลังจะชักปืนขึ้นมา ชายอีกคนก็ได้ใช้ มีดเสียบเข้าที่ท้องอย่างจัง!!!
"อุ้ก!"
ทันใดนั้น ชายคนนั้นก็ล้มลง เพราะทนฤทธิ์บาดแผลไม่ไหว แต่ก็นับว่าโชคดี ที่เขานั้นเสียเลือดไม่มากนัก
"ก....แก!....คิดจะ....หักหลัง....พวกเรา...อ..อย่างนั้นเหรอ!!!?" ชายคนนั้น เอามือกุมที่ท้อง ก็พบว่าที่ท้องเขานั้น มีเลือดไหลออกมาไม่มากนัก
แต่ว่า มันก็อาจจะพอทำให้เขานั้น บาดเจ็บสาหัสได้เลย
"หึหึ~~ผมแค่จะลอง สั่งสอน คุณก็เท่านั้นแหละ...คุณ ควอซกี้" ชายคนนั้น ใช้ผ้าเช็ดรอยเลือดบนมีดของตัวเอง ก่อนที่จะนำมันกลับเข้าไปในเสื้อ
"ฮ่ะ!....งั้นเหรอ? งั้นดูเหมือนว่า ฉันคงจะต้องยอมนายอีกแล้วสินะ....." ทันใดนั้น เขาก็เริ่มลุกขึ้นมาจากบนพื้น และเริ่มปัดรอยเลือดออกไป อย่างชิวๆ
"หึหึหึ......ก็ใช่น่ะสิครับ" ชายคนนั้น กล่าวกับ ควกซกี้ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู ที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตร
"เฮ้อ~~! ให้ตายสิ....ดูเหมือนว่า ฉันคงต้องไปเปลี่ยนสูทตัวใหม่แล้วมั้งเนี่ย!?" ควอซกี้ กล่าวออกมาแบบเซ็งๆ เพราะว่า เสื้อเขานั้นมีรอยเลือด (ซึ่งที่จริง
ก็คือซอสมะเขือเทศ) ติดอยู่เยอะมาก
"งั้นฉันขอตัว กลับก่อนล่ะ!.ดูเหมือนว่า พรุ่งนี้ฉันมีนัดสำคัญน่ะ!"
"เชิญเลยครับ.....คุณ ควอซกี้"
ทั้งสองได้กล่าวอำลา ก่อนที่ประตู ในห้องนั้นจะถูกปิดลง เหลือเพียงแต่ ชายคนนั้นคนเดียว....
"หึหึหึ......ดูเหมือนว่า ณ ตอนนี้ แกคงจะสบายดีนะ...."
................................................................................
"เฮ้ย~~! ชิบแล้ว!! วันนี้ วันจันทร์นี่หว่า!!" เด็กหนุ่ม ลุกขึ้นมาจากเตียงทันที ที่เขานั้นได้เหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ตั้งบนเตียงของเขา
"กรรม! สายแล้วนี่หว่า!!"
สวัสดีครับ ผมชื่อว่า "จอหน์นี่" ครับ.โอ้ย!!! ตายล่ะ!!! สายแล้วๆๆๆ
จอหน์นี่ ได้ทำภารกิจส่วนตัว ก่อนที่จะวิ่งออกจากบ้านตัวเอง ที่อยู่ห่างไม่ไกลจากโรงเรียนประมาณ 3 กม.
(นี่สินะ.....สเต็ปของอนิเมะญี่ปุ่น.... : คนเขียน)
...............................
หลังจากที่ผมนั้นออกมาจากบ้านแล้ว ผมก็ได้เดินมาถึงที่โรงเรียนครับ โรงเรียนแห่งนี้ คุณอาจจะคิดว่า แค่โรงเรียนม.ปลายธรรมดาๆ
แต่ไม่ครับ! ที่นี้ ผมคิดว่ามันเป็นมากกว่า โรงเรียนม.ปลายธรรมดาๆซะอีก. เพราะว่า ที่โรงเรียนนี้มีผู้หญิงอยู่ตั้ง 3,000 กว่าคนครับ!! โอ้ว!
มันช่างเป็นอะไรที่.......ช่างน่าเศร้า T_T
(โอ้ว!!! บร๊ะเจ้า!! O[]O!! นี่มันฮาเร็มชัดๆ : คนเขียน)
เอาล่ะ! ช่างมันเถอะครับ.....ณ ตอนนี้ ผมก็ได้เข้ามาในโรงเรียนสักที...เฮ้อ~~! รอดมาซะทีแหะเรา...
................................
เมื่อ จอหน์นี่ ได้เข้ามาในห้องเรียนเรียบร้อยแล้ว เขาก็ต้องถึงขั้นกับตะลึง เพราะเขานั้น มาสายไปประมาณ 20 นาทีกว่าแล้ว
"รู้สึกว่า เธอจะมาสายไปตั้ง 20 นาที แล้วนะ...." หญิงสาวอายุ 20 กว่าปี มองไปที่ จอหน์นี่ที่กำลังเปิดประตูเข้ามาในห้องเรียน
เธอมี ดวงตาสีเขียวสดใส แต่งกายด้วยชุดที่รัดรูป แต่ก็ไม่รัดจนเกินไป ซึ่งดูเหมือนเธอจะเป็น อาจารย์สอนของ จอหน์นี่
"ช่างเถอะ! ไปนั่งเข้าที่ซะ!" อาจารย์ สั่งจอหน์นี่ ด้วยนํ้าเสียงที่เข้มงวด ก่อนที่เธอจะเดินไปประจำหน้าห้องเรียน เพื่อพูดอะไรบางอย่างให้กับนักเรียน
บรรยากาศในห้องเงียบสงัดลง จนกระทั่ง จอหน์นี่ได้เดินไปนั่งที่ด้วยความลุกลี้ลุกลน....
"เอาล่ะ! วันนี้ฉันมีนักเรียนใหม่จะพามา ให้พวกเธอรู้จักกันนะ" อาจารย์สาว พูดขึ้น
"เอ๋? ว่าแต่เป็นใครเหรอค่ะ? อาจารย์." เด็กสาวคนหนึ่ง ยกมือขึ้น ถามด้วยความสงสัย
"ไม่รู้สิ...แต่ดูเหมือนว่า เจ้านั้น คงจะได้เจอเพื่อนใหม่แล้วล่ะ? ใช่มั้ย? เจ้าหูฟัง" อาจารย์สาว หันไปที่ จอหน์นี่ ในขณะที่เขานั้นกำลังเปิดเพลง Dubstep
ฟังอย่างเมามันส์ โดยที่ไม่ได้สนใจ รอบข้างเลย
"หือ?" จอหน์นี่ เริ่มเบาเสียงเพลงลง จนเขารู้ว่า อาจารย์นั้น กำลังมองมาที่เขาอยู่ ทำเอาผู้หญิงทั้งห้องนั้น ต่างหัวเราะอย่างเบาๆ
"เอาล่ะ! ช่างมันเถอะ! ฉันขี้เกียจตำหนิ นายแล้วล่ะ!" อาจาร์ยสาว ทำหน้าเบื่อหน่าย ก่อนที่เธอนั้นจะทำการต้อนรับ เด็กใหม่เข้ามา
"เชิญจ๊ะ!" อาจาร์ยสาว ทำการต้อนรับ นักเรียนคนใหม่ ในขณะที่ทั้งห้องนั้น ต่างก็ใจจดใจจ่อกันตามไปด้วย...
...................................
ในตอนนั้นเอง.....ผมก็รู้สึกได้ถึง สัมผัสบางอย่าง......บางอย่างจาก ตัวของเขา......
แม้ว่าผมอาจจะมองไม่เห็นมัน......ผมกลับ สัมผัสมันได้....ราวกับ มันต้องการผม........
(จบ Chapter 2: Viper and Basilisk)
Chaos67- New Stick
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 10
คำขอบคุณ : 0
Join date : 24/07/2011
ที่อยู่ : ชั้นใต้ดินของกองทัพไร้สังกัด
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(0/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ