Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
+11
sunlovestick
chainas
lowclassman
โจ
Thoong
manlow
FlaMzZ
Zenigame
go pivot
Wallohz
Black Of King
15 posters
หน้า 2 จาก 2
หน้า 2 จาก 2 • 1, 2
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
โอ้~ โฮ่ โฮ่ โฮ่ โฮ่
เหล่าผู้ถูกทอดทิ้งเอ๋ย...
พวกเจ้าจักทำอะไรกันหรือ!?
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
การบรรยายบางส่วนยังไม่ดีนะครับ เช่น
ลองเปลี่ยนเป็น..
.......
ดีกว่า....
มั้ง?
เถียงผมได้นะ ผมเองก็ไม่เคยแต่งฟิคเหมือนกันนะ... อืมม์
เหล่าผู้ถูกทอดทิ้งเอ๋ย...
พวกเจ้าจักทำอะไรกันหรือ!?
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
การบรรยายบางส่วนยังไม่ดีนะครับ เช่น
วินแมนฟังแล้วงงคำตอบที่ให้มา จึงจะกลับไปถาม
สวบ
เสียงคมมีดดังขึ้นมาจากความเงียบที่วินแมนหันมา ก่อนเกิดน้ำสีแดงหยดลงมาที่พื้น
ลองเปลี่ยนเป็น..
วินแมนได้ยินดังนั้น แล้วรู้สึกงงคำตอบที่ให้มา จึงจะหันกลับไปถาม...
สวบ!!
เสียงคมมีดเล่มหนึ่งดังขึ้น... ก่อนที่ของเหลวสีแดงเข้ม ไหลออกจากร่างกายวินแมน หยดลงมาที่พื้นทีละน้อย...
.......
ดีกว่า....
มั้ง?
เถียงผมได้นะ ผมเองก็ไม่เคยแต่งฟิคเหมือนกันนะ... อืมม์
Wallohz- Moderator
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 64
คำขอบคุณ : 5
Join date : 13/06/2010
Level :
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
Wallohz พิมพ์ว่า:โอ้~ โฮ่ โฮ่ โฮ่ โฮ่
เหล่าผู้ถูกทอดทิ้งเอ๋ย...
พวกเจ้าจักทำอะไรกันหรือ!?
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
การบรรยายบางส่วนยังไม่ดีนะครับ เช่นวินแมนฟังแล้วงงคำตอบที่ให้มา จึงจะกลับไปถาม
สวบ
เสียงคมมีดดังขึ้นมาจากความเงียบที่วินแมนหันมา ก่อนเกิดน้ำสีแดงหยดลงมาที่พื้น
ลองเปลี่ยนเป็น..วินแมนได้ยินดังนั้น แล้วรู้สึกงงคำตอบที่ให้มา จึงจะหันกลับไปถาม...
สวบ!!
เสียงคมมีดเล่มหนึ่งดังขึ้น... ก่อนที่ของเหลวสีแดงเข้ม ไหลออกจากร่างกายวินแมน หยดลงมาที่พื้นทีละน้อย...
.......
ดีกว่า....
มั้ง?
เถียงผมได้นะ ผมเองก็ไม่เคยแต่งฟิคเหมือนกันนะ... อืมม์
ผมก็ไม่เคยแต่งเลยครับ พึ่งมาแต่งนี่ครั้งแรกแหละครับ =w=
ขอบคุณที่ติครับ
Black Of King- Administrator
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 1752
คำขอบคุณ : 101
Join date : 05/04/2009
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Purpleeeeee!
EXP:
(513/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
ไมไม่ยัดใสกระทู้เดิมล่ะครับ งง มากมาย :
qweert2010- Down Stick
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 273
คำขอบคุณ : -2
Join date : 18/04/2011
: 26
ที่อยู่ : rayong
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(0/0)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
qweert2010 พิมพ์ว่า:ไมไม่ยัดใสกระทู้เดิมล่ะครับ งง มากมาย :
มันงงตรงไหนเนี่ย ท่านแบล๊กเค้าก็เรียงถูกแล้ว ตอน 1 2 3 4 5
มันจะงงตรงไหนเนี่ย
sunlovestick- Stick Fighter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 257
คำขอบคุณ : -15
Join date : 12/02/2011
Level :
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
Special Chapter : Unknow living thing
ท่ามกลางความมืดมิดอันดำสนิท มีชายคนหนึ่งอยู่ภายในนั้น ในความมืด
แต่ว่าตัวเขานั้นดำยิ่งกว่าความมืดที่อยู่รอบข้างซะอีก ทำให้ตัวเขานั้นดูเด่นท่ามกลางความมืดเหล่านี้
และที่สำคัญ ตอนนี้ตัวเขาลอยอยู่กลางอากาศ! แต่สีหน้ามึนเบลอๆที่ขัดแย้งกันที่ทำอะไรไม่ถูกนั้น
ทำให้รู้ว่าการลอยตัวนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นตามสถานการณ์ปกติอย่างแน่นอน
เขาก็ยังคงทำหน้ามึนเบลอต่อไป และไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
แต่แล้วทันใดนั้นความคิดความคิดหนึ่งก็ผ่านสมองเข้ามา
..ที่นี่ที่ไหนกัน...
เขาถามตัวเองในใจ ห้องแรงโน้มถ่วง? อวกาศ? เขาก็ไม่อาจรู้ได้
เพราะ เขาไม่เห็นอะไรสักอย่างนอกจากความมืดและชุดบนร่างตัวเองแบบ'ลางๆ'เท่านั้น
เนื่องจากมองไม่เห็นเขาจึงใช้ 'ประสาทสัมผัส' แทนการใช้ตามองแทน
'ประสาทสัมผัส' ของเขา ลอยไปบริเวณโดยรอบอย่างช้าๆ แล้วนั้นก็ทำให้เขารู้ว่า ณ ตรงนี้ ที่นี่
หามีสิ่งใดไม่ นอกจากความมืดอันว่างเปล่า กับตัวเขาเท่านั้นเอง
เมื่อถึงตรงนี้เขาได้รู้สึกหวั่นขึ้นมาทันใด เลยคิดจะตะโกนหาคน แต่ก่อนที่จะได้ตะโกนนั้น
เขาก็นึกได้ว่า ไม่มีใครหรืออะไรอยู่แถวนี้ ก็เลยหุบปากที่อ้าขึ้นมาลงในทันใด แล้วเริ่มคิดหาทางออกจากที่นี่
แต่เขาไม่กล้าที่จะขยับตัว เพราะกลัวว่า หากขยับไป ตัวที่เขาลอยอยู่จะตกลงมาทันทีที่ขยับรึเปล่า
อีกใจหนึ่งบอกว่า ถ้าไม่ขยับก็จะลอยเคว้งอยู่อย่างนี้รึไงกัน ขยับแล้วไปข้างหน้าต่อดีกว่า
ทั้งสองใจขัดแย้งกันได้เสี้ยววิ เขาก็เชื่อที่จะทำตามใจฝ่ายหลังของตนเอง
เขาเริ่มลองขยับไปข้างหน้า ด้วยการทำท่าเหมือนท่าว่ายน้ำ
ผลคือเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้โดยไม่ตก! แถมยังหายใจได้ด้วย!
แต่เขายังข้องใจอยู่ว่า สถานที่ที่อยู่นี้คืออะไรกันแน่ ลอยได้แต่กลับไม่ใช่อวกาศ กลับไม่ได้อยู่ในน้ำ
หรือนี่จะเป็นห้องแรงโน้มถ่วง? เขาคิดสรุปเงียบๆ แต่แล้วก็ทิ้งความคิดนั้นไปทันใดเพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นคือการออกจากที่ดำมืดแห่งนี้
แต่เมื่อมองไม่เห็น ไม่รู้ทิศทาง และทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด ทำให้เขาไม่อาจจะหาทางออกไปข้างนอกได้
"เป๊ง" เสียงประหลาดที่เหมือนวัตถุกระทบกันดังขึ้น เขาผู้ลอยกลางอากาศได้ยินอย่างชัดเจน เขาหันไปยังทิศทางนั้น
และการได้ยินนี้ได้ทำให้เขาตัดสินใจว่าใช้เสียงนี้เป็นการหาทางออกไปข้างนอกดีกว่า
เสียงประหลาดดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เขาจำแนกทิศทางได้แล้วว่ามาจากทางไหน
เขาเคลื่อนตัวไปทางนั้นโดยอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว..
เขายิ่งเคลื่อนตัวไปทางนั้นมากเท่าใด เขายิ่งได้ยินชัดขึ้นและดังขึ้นกว่าเดิม
ทำให้เขารู้ว่าเริ่มใกล้ถึงทางออกขึ้นมาแล้ว แต่แล้วพอเขาคิดถึงเสียงก็เงียบลงทันใด
เขาชะงักการเคลื่อนไหวของตนเองทันทีที่เสียงหยุดลง
แต่ชะงักได้แปปเดียวเขาก็เคลื่อนที่ตามทิศทางที่เคยได้ยินเสียงนั้น
เขาใช้ 'ประสาทสัมผัส' อีกครั้ง คราวนี้พบว่ามี'กำแพง'เรียบๆด้านหน้า!
รอยยิ้มจางๆเริ่มปรากฏบนใบหน้าเขาอย่างช้าๆก่อนที่จะเคลื่อนหัวไปหา'กำแพง'นั่น
โดยหลักการแล้วพอมีกำแพงแล้ว จะต้องเจอช่องทางออกได้อย่างแน่นอน
เขาคิดเข้าข้างตัวเองอย่างเงียบๆ พอถึงกำแพงเขาลัดเลาะแตะไปตามกำแพงเพื่อหาทางออกทันที
เขาลัดเลาะเป็นเวลานาน เขาก็ได้พบ'กำแพง'อีกด้านหนึ่ง เขานึกไปหากำแพงนั้นแล้วลัดเลาะต่อ
และเป็นแบบนี้หลายครั้งจนเขารู้สึกว่า 'วนอยู่ที่เดิม' หรือ 'หลงทาง'
เขานึกได้แบบนี้จึงหยุดลง และเริ่มสร้างภาพ 'ห้อง' ที่ตัวเองอยู่ข้างในอย่างเป็นรูปเป็นร่าง โดยใช้ความรู้สึกกะเอา
เขาสรุปได้ว่า 'ห้อง' นี้มีกำแพงอยู่ 4 ด้าน เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ้งตอนนี้เขาอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของ 'กำแพง'
เขานิ่งคิดอีกพักหนึ่ง ก็ทำตามความคิดของตัวเองทันที นั่นคือเคลื่อนที่ขึ้นไปข้างบน
ถึงจะประหลาดไปสักหน่อยว่าประตูทางออกจะอยู่ข้างบน.. แต่ว่านี่มัน'ห้อง'ที่ทำให้ลอยได้นี่นา!
ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกที่ว่าทางออกอยู่ข้างบนนั้น แปลกประหลาดแม้แต่อย่างใด
หลังจากขึ้นมาได้พักใหญ่ๆ หัวเขาก็ติด 'เพดาน' ของ 'ห้อง'
แล้วเขาก็ทำแบบเดิมคือลัดเลาะไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอทางออก
หลังจากที่เขาลัดเลาะมาพักใหญ่ๆแล้ว ไล่ไปที่ละนิดก็แล้ว ทั้ง'กำแพง' ทั้ง'เพดาน'ก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าทางออกเลยแม้แต่อย่างใด
เขานิ่งคิดอีกครั้ง และ ตัดสินใจที่ทำตามความคิดที่ขัดแย้งกันที่สุด คือการเคลื่อนลงไป 'ข้างล่าง'
แต่ใครจะรู้ละว่าพอเขาลงมาถึงข้างล่างปุ๊ป ตัวเขาก็หนักขึ้นมาในทันใด ทำให้เขาร่วงลงสู่พื้นอย่างเร็ว
ตัวเขากระแทกพื้นดัก ' แอ๊ก ' อย่างช่วยไม่ได้.. เขาลุกขึ้นมาลูบหน้าอย่างเจ็บปวด
แต่ขณะที่ลูบหน้าอยู่นั้น ทำให้เขาเจอ'แสง'ที่ลอดเข้ามาจาก 'ช่องกลางอากาศ'แห่งความมืดนั่น
ถึงเขาจะประหลาดใจอย่างเป็นที่สุด แต่ก็ยังเข้าไปหา 'ช่อง'ที่ว่านั่น
ทันทีที่ถึง เขาก้าวข้ามช่องนั้นเข้าไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย..
หลังจาก'เข้ามา'ในหลุมแล้วก็มีอากาศบริสุทธิ์พุ่งเข้าใส่หน้าอย่างเต็มที่
แสงขาวที่สาดส่องประกายนั้นทำให้เขาแสบตาเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มปรับสภาพให้กลับมาปกติได้
ถึงตอนนี้เขาจึงเห็นภายนอกได้ชัดเจนที่สุด
'ช่อง' ที่เขาได้เข้ามา หรือทางออกจาก 'ห้อง' นั้นคือประตูเหล็กกล้าที่มีแม่กุญแจครึ่งส่วนห้อยอยู่
ส่วน'ห้อง'ที่เขาได้ออกมานั้นคือโกดังที่เทาหม่น
เขามองไปรอบๆ เห็นมีโกดังอยู่หลายแห่ง และมีหลายสี
ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าแต่ละสีจะบ่งบอกถึงอะไร
แต่เขาก็ไม่ใส่ใจนัก เพราะเขามีคำถามขึ้นมาในหัวขึ้นมาให้คิดอีกแล้ว
...แล้วเราเป็นใครกัน.. ..แล้วออกมาเพื่อทำอะไรกันแน่..
แต่ไม่ทันที่จะได้คิด สายตาของเขาเหลือบไปเห็น'ตึก' ที่อยู่ใกล้ๆลิบนั้น เขาจึงนึกเรื่องทั้งหมดออกในที่สุด
แล้วเขาก็เดินไปยัง ' ตึก ' ตาม ' ความต้องการของตน ' และ ' ความตั้งใจของตน ' แห่งความคิดภายในจิตใจของตนเอง
จบตอนพิเศษ
-----
ตอนที่ 6 "ผู้มาช่วย"
กลางคืนที่มืดสนิทกลับไม่เงียบสงัดเมื่อมีเสียงปืนคำรามดังขึ้นเป็นระยะๆ
กลุ่ม 3 คน ไพวอต(pivotboss) เฮอร์เริร์ม(hererm) วรายุทธ์(warayut)
ที่ถูกสั่งมาลงพื้นที่ที่"โกดัง"ที่พวก Moss กับ sf อยู่ก่อนที่จะหายตัวไป
ตอนนี้ได้สู้กับมือปืนไม่แน่ชัด 2 คน
อีกคนถือปืนที่ติดเป้าเล็งเลเซอร์ ส่วนอีกคนตัวขาวโร่ ที่น่าแปลกก็คืออยู่ในความมืดแท้ๆตัวกลับสีขาว
เฮอร์เริร์มถือปืนพกคู่กระโดดเข้าไปประชิดตัวมือปืนเงาขาว
ส่วนไพวอตไปสู้กับมือปืนเลเซอร์ ส่วนวรายุทธ์กำลังหาทางที่ซู่มยิงไกลเพื่อช่วยสนับสนุน
ถ้าการวางแผนนี่สำเร็จ ชัยชนะก็ตกเป็นของพวกเขา 3 คนได้อย่างสบายๆ
แต่ตอนนี้ พวกเขาโดนมือปืนเลเซอร์และเงาเขาต้อนให้ถอยกลับอยู่บ่อยๆ
เพราะมือปืนเลเซอร์นั้นยิงไวมาก บีบให้ไพวอตนั้นถอยมาหลายรอบ
ด้วยมือปืนกลหนักอย่างเขาที่ความคล่องตัวไม่ค่อยมี ทำให้ไม่สามารถสู้กับมือปืนที่ยิงเร็วขนาดนี้ได้
มือปืนเงาขาวนั่นก็ไม่ธรรมดา ถึงจะยิงช้ากว่ามือปืนเลเซอร์ แต่เขาเล็งแต่หัวอย่างเดียว!
เพราะอย่างนี้เฮอร์เริร์มจึงต้องเปิดสัญชาตญาณขึ้นถึงขีดสูงสุด เพื่อให้หัวตัวเองไม่เกิดรูขึ้น
ส่วนวรายุทธ์นั้นไปไหนไม่ได้ เพราะจะมีมือปืนเลเซอร์ ไม่ก็ เงาขาวมายิงสกัดทุกครั้ง
ที่เขาจะวิ่งไปหาพื้นที่ในการซุ่มยิง เพราะมือปืนทั้ง 2 คนเป็นมือปืนเหมือนกันจึงเข้าใจดีว่า
ถ้ามือปืนระยะไกลมีช่องว่างไปซุ่มเมื่อไร พวกเขาจะตกเป็นรองทันที เพราะทางนั้นมีจำนวนมากกว่า
ทั้งหมดนี้เพราะมือปืนทั้ง 2 เป็นคนบุกก่อน ทำให้เกิดความได้เปรียบ
ณ ตอนนี้ สถานการณ์ของกลุ่มเฮอร์เริร์มกำลังยำแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้ห่างจากจุดหมายราวๆ 6 กิโลเมตรแล้ว
"เอาไงดีครับ ท่านรอง" ไพวอตตะโกนขึ้นอย่างร้อนรน
"ใจเย็นๆก่อน" ท่านรอง หรือ เฮอร์เริร์มพูดขึ้นพร้อมหลบกระสุนอย่างใจเย็น
"ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ยำแย่เท่าไร เพียงมีช่องว่างเท่านั้น เราก็จะบุกกลับมาได้"
"แล้วเมื่อไรจะมีช่องว่างละ...อ๊ะ" วรายุทธ์พูดขึ้นมาบ้าง และทำหน้านึกออกในทันใด
"เราปาระเบิดใส่พวกนั้นเป็นไง แบบนี้ก็น่าจะมีช่องอยู่นะ"
ไพวอตกราดปืนกลสวนกลับไปแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "เมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมาก็ทำไปแล้วรอบหนึ่งไปแล้วไง จำไม่ได้หรอ"
"พอปาไปพวกนั้นยิงระเบิดสะกัด ได้อย่างว่องอีกต่างหาก แถมพวกเราต้องถอยร่นเพราะแรงระเบิดตัวเองอีก"
เฮอร์เริร์มเคลื่อนไหวหลบกระสุนไปไปพร้อมกับพูดต่อให้ไพวอตจนจบแล้วทำหน้าเบื่อโลก
วรายุทธ์ยังไม่ย่อท้อ เสนอความคิดมาอีกว่า "งั้นเลาะไปด้านหลังพวกมันดีม่ะ"
ไพวอตได้ยินก็ถอนหายใจหลบกระสุน แล้วพูดขึ้นว่า "แผนนั้นเคยใช้ไปแล้วไง แต่พวกมันไม่เคยปล่อยช่องว่างให้เลย"
"เดี๋ยวก่อน" จู่ๆเฮอร์เริร์มก็พูดขึ้นมา แล้วยิ้มอย่างมีเล่ห์ "ฉันมีแผนแล้ว"
....
มือปืนเลเซอร์ และมือปืนเงาขาวที่อยู่หลังเนินกลุ่ม 3 คนได้รู้สึกว่า พวกนั้นไม่ยิงโต้ตอบกลับแล้ว แถมได้ยินเสียงโลหะดึงออกอีกด้วย
มือปืนได้ยินดังนี้ก็คาดการณ์ว่า พวกนั้นจะใช้ระเบิดปาเพื่อหาช่องว่างแน่นอน เขาได้หันไปทางที่ได้ยินเสียงทันที
จริงๆด้วย!! มือปืนทั้งสองรู้สึกถึง วัตถุที่ลอยมากลางอากาศกำลังมุ่งตรงมาห เขาจึงยิงไปหาวัตถุนั้นด้วยความเร็วเช่นเดิม และระเบิดขึ้นเหมือนครั้งก่อนๆ
แต่ครั้งนี้กระสุนกระทบกับวัตถุกลางอากาศ แต่วัตถุนั้นกลับไม่ระเบิด แต่กลับมีฝุ่นผงระเบิดกระจายมาจากกลางอากาศแทน
มือปืนทั้งสองประหลาดใจหนัก แต่ก็แค่ชั่วขณะเท่านั้น และก็หันกลับมาคิดได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่ยิงนั้นคือก้อนหิน!!
แต่พวกเขาได้ยินเสียงแกะสลักระเบิดอย่างแน่นอน ถ้าสิ่งที่ยิงไปคือก้อนหินละก็ แล้วระเบิดจริงละอยู่ตรงไหน?
พวกเขายังไม่ทันได้คิดต่อ วัตถุที่พวกเขากำลังหานั้นก็กลิ้งมาตำแหน่งของพวกเขาอย่างช้าๆ...
บรึ้มมมมมมมมม!!!!!!
แสงวาบเกิดขึ้นตรงระหว่างเนินทรายทันใด หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดครั้งรุนแรง ทรายจากเนินแตกกระจายไปทั่วบริเวณ
"พวกเรา ช่องว่างเปิดแล้ว รีบบุกสวนกลับเร็ว!!!!"
ที่แผนนี้สำเร็จได้เพราะ ความมืด
สัมผัสของคนเราที่ไว้จับวัตถุนั้นมีอยู่สามสิ่ง ตา หู และความรู้สึก
เมื่อคนเราอยู่ในที่มืด สายตาของคนเราจะมองอะไรไม่เห็นได้ดีเท่าตอนสว่าง (แต่สำหรับกลุ่มเฮอร์เริร์มนั้นไม่เป็นไร เพราะใส่แว่นอินฟราเรด)
สิ่งที่จะใช้ในการสัมผัสที่เหลือก็เหลือแค่เสียงกับความรู้สึก เป็นสิ่งที่พวกมือปืนส่วนใหญ่ที่ยิงเร็วไวและแม่นยำมักจะใช้กัน
รองหัวหน้าเฮอร์เริร์มรู้ถึงจุดนี้ดี จึงใช้เสียงแกะสลักระเบิดเป็นตัวล่อ แล้วให้วรายุทธ์ปาก้อนหินเป็นแนวโค้งไปก่อน แล้วเขาค่อยกลิ้งระเบิดตามไป
พวกมือปืนได้ยินเสียงเหล่านี้ก็ทึกทักเอากันไปเองว่าที่โยนมาต้องเป็นระเบิดแน่นอน จึงโดนหลุมพรางอย่างง่ายดาย
เฮอร์เริร์มเห็นว่ามือปืนเงาขาวที่ยิงได้แม่นยำนั้นเป็นภัยมากกว่า เขาจึงวิ่งถือปืนพกคู่วิ่งบุกเข้าหาทันที
ไพวอตเห็นรองไปจัดการมือปืนงาขาวแล้ว เขาจึงวิ่งถือปืนกลหนักกราดเข้าไปหามือปืนเลเซอร์ดังสมปรารถนา (?)
ส่วนวรายุทธ์นั้นวิ่งหาที่ซุ่มได้แล้วก็เตรียมเล็งซุ่มเพื่อสนับสนุนคนอื่นในทีม
สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มือปืนเลเซอร์ และมือปืนเงาขาวเริ่มเป็นฝ่ายถอยบ้างแล้ว...
ด้วยความเร็วที่เท่าเทียมกันของเฮอร์เริร์ม ความได้เปรียบและการสนับสนุนของวรายุทธ์ ทำให้มือปืนเงาขาวได้แต่หลบอย่างเดียว ปืนแทบไม่ได้ชัก
ส่วนด้านไพวอตนั้นก็เป็นไปด้วยดี เพราะการเริ่มโจมตีก่อน และความรัว(+กระสุนเยอะ)ของปืนกล ทำให้กลายเป็นฝ่ายรุก อยู่
มือปืนเลเซอร์แทบไร้โอกาสโจมตีกลับ เอาแต่หลบในเนินอย่างเดียว
ตอนนี้อยู่ห่างจากโกดังไม่ถึง 200 เมตรแล้ว
เหมือนสถานการณ์กำลังเป็นไปด้วยดี แต่จู่ๆวรายุทธ์ก็ไม่ยิงซะแล้ว!!
เมื่อไม่มีการสนับสนุนของวรายุทธ์ ทำให้มือปืนเงาขาวได้ตอบโต้กลับได้ แต่รองหัวหน้าเฮอร์เริร์มก็เก่งไม่แพ้กัน ทำให้คู่นี้สูสีกัน
แต่ทางด้านไพวอตไม่ได้ดีแบบนั้น ทันทีที่วรายุทธ์หยุดยิง มือปืนเลเซอร์ก็ตอบโต้รวดเร็วมาก จนไพวอตรับมือแทบไม่ทัน
"บ้าจริง เจ้าวรายุทธ์มัวทำอะไรอยู่" ไพวอตบ่นแบบนี้ออกมาเบาๆขณะหลบกระสุนของมือปืนเลเซอร์
ตอนแรกเขาคิดว่าวรายุทธ์กระสุนหมด เลยกำลังเสียเวลาเติมกระสุนอยู่ แต่ตอนนี้เวลาผ่านมาหลายนาทีแล้วนี่นาหรือว่าจะแปรพักตร์!?
แต่คิดแบบนี้ได้แปปเดียวก็มีอีกความคิดที่ขัดค้านสุดขั้วโผล่ขึ้นมา 'ถ้าแปรพักตร์จริงก็ต้องยิงใส่เขาแล้ว ดังนั้นไม่น่าเป็นไปได้'
หรือว่า.... จะเสร็จไปแล้ว?
พอคิดได้แบบนี้ก็กังวลขึ้นมาทันใด คราวนี้มีมือที่ 3 เข้ามาช่วย? หรือพรรคพวกอื่นของเจ้าพวกนี้?
แต่ไม่ว่าเรื่องที่คิดนั้นจะจริงหรือไม่ หน้าที่เขาตอนนี้ก็คือต้องต้านมือปืนเลเซอร์ไว้
เพื่อไม่ให้เข้าไปหารองหัวหน้าจนกว่าทางนั้นจะจัดการศัตรูเสร็จก่อนดีกว่า
คิดได้แบบนี้ก็เข้าไปกราดปืนใส่มือปืนเลเซอร์ด้วยใจเด็ดเดี่ยว
แต่ทว่าจุดเดิมที่เป้าหมายได้อยู่นั้นหายไปเสียแล้ว
ไพวอตตะลึงอย่างแรง หรือเจ้ามือปืนนั้นใช้จังหวะที่เขาคิดอยู่ไปหาทางนั้นแล้ว? บ้าชะมัด แบบนี้ก็จบเห่นะสิ
เพราะกำลังคิดอยู่ไพวอตตอนนี้ก็ยืนนิ่ง และตอนนี้เอง จุดเลเซอร์ก็โผล่มาตรงหน้าผาก!!
ไพวอตรู้สึกตัวแทบจะในทันที แล้วใช้สัญชาตญาณในการเบี่ยงตัวหลบ
มือปืนเลเซอร์คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องหลบ ปืนที่กำลังลั่นไกจึงเอี่ยวไปหาไพวอตอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกดปล่อยกระสุน
ปังงงง!!! ปังงงง!!! ปังงง!!! ปังงงง!!!!
กระสุนสี่นัดพุ่งไปเจาะตำแหน่งที่แขนกับขาของไพวอตทันที ทำให้มือของเขารับน้ำหนักของปืนกลไม่ไหว
ทำให้ปืนกลหนักที่ถือนั้นร่วงลงมาทันที
'บ้าชะมัด' ไพวอตคิด 'เจ้านี่แกล้งจะไปช่วยอีกฝั่ง แต่จริงๆแล้ว จะอ้อมมาดักจัดการเขาก่อนต่างหาก'
เมื่อไม่มีอาวุธ ไพวอตก็เหมือนคนพิการ จะสู้อะไรกับคนที่ถือปืนได้..
ขณะที่ มือปืนเลเซอร์กำลังจะเหนี่ยวไกดับชีวิตผู้ไร้อาวุธอยู่นั้น
สัญชาตญาณของเขาก็เตือนร้องอย่างรุนแรงว่ามีอะไรกำลังพุ่งโจมตี
มือปืนเลเซอร์จึงกระโดดออกจากที่ตรงนั้นทันที
ทันทีที่โดดออกไปนั้น มีไฟลูกหนึ่งพุ่งเขามาตรงจุดเดิมที่มือปืนเลยอยู่
เมื่อไฟนั่นกระทบกับพื้นก็เกิดแรงระเบิดทันที
ตูมมมมมมมมมมม!!!
ควันจากผงทรายพุ่งกระจายไปทุกทิศทุกทาง เกิดแรงดันอากาศ ณ จุดนั้น และบดบังทัศนียภาพแถวนั้นไปชั่วขณะ
"มาทันจนได้" เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย ไพวอตตะลึง เสียงนี้เขาไม่ได้ยินมานานแล้ว...
ทางมือปืนเลเซอร์ ที่มองไม่เห็นเพราะฝุ่นที่ฟุ้งนั้น ได้ยินเสียงของชายที่อยู่ข้างใน ก็กดปืนลั่นไกใส่อย่างรวดเร็ว
แต่ชายภายในฝุ่นไม่แคร์เท่าไร เขาพุ่งตรงมาหา พร้อมกับเอนตัวหลบกระสุนไปด้วย เพราะอย่างนี้มือปืนเลเซอร์จึงยืนตกตะลึง
ถึงตอนนี้ชายคนนั้นก็มีโอกาสแล้ว จึงใช้ขาข้างขวาที่มีเพลิงร้อนระอุ วาดขา เตะใส่มือปืนเลเซอร์ทันที
เปรี้ยงงง!!! มือปืนเลเซอร์โดนเตะปลิวกระแทกกับเนินหินข้างๆ
เขาได้รับแรงเจ็บทั้งการเผาไหม้ของขา แรงเตะของขา และแรงกระแทกของเนินหิน ทำให้ตกลงมาอย่างไม่สวยงาม
"เป็นอะไรไหม ไพวอต" ชายเท้าไฟถามขึ้นมาพร้อมสีหน้าอันเรียบนิ่ง
ไพวอตที่เห็นเหตุการณ์นี้ตกตะลึงไปนาน พอชายเท้าไฟถามขึ้นมา เขาถึงหาเสียงของตัวเองเจอ
"สติกเอ็ต!!"
....
จบตอน
ท่ามกลางความมืดมิดอันดำสนิท มีชายคนหนึ่งอยู่ภายในนั้น ในความมืด
แต่ว่าตัวเขานั้นดำยิ่งกว่าความมืดที่อยู่รอบข้างซะอีก ทำให้ตัวเขานั้นดูเด่นท่ามกลางความมืดเหล่านี้
และที่สำคัญ ตอนนี้ตัวเขาลอยอยู่กลางอากาศ! แต่สีหน้ามึนเบลอๆที่ขัดแย้งกันที่ทำอะไรไม่ถูกนั้น
ทำให้รู้ว่าการลอยตัวนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นตามสถานการณ์ปกติอย่างแน่นอน
เขาก็ยังคงทำหน้ามึนเบลอต่อไป และไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
แต่แล้วทันใดนั้นความคิดความคิดหนึ่งก็ผ่านสมองเข้ามา
..ที่นี่ที่ไหนกัน...
เขาถามตัวเองในใจ ห้องแรงโน้มถ่วง? อวกาศ? เขาก็ไม่อาจรู้ได้
เพราะ เขาไม่เห็นอะไรสักอย่างนอกจากความมืดและชุดบนร่างตัวเองแบบ'ลางๆ'เท่านั้น
เนื่องจากมองไม่เห็นเขาจึงใช้ 'ประสาทสัมผัส' แทนการใช้ตามองแทน
'ประสาทสัมผัส' ของเขา ลอยไปบริเวณโดยรอบอย่างช้าๆ แล้วนั้นก็ทำให้เขารู้ว่า ณ ตรงนี้ ที่นี่
หามีสิ่งใดไม่ นอกจากความมืดอันว่างเปล่า กับตัวเขาเท่านั้นเอง
เมื่อถึงตรงนี้เขาได้รู้สึกหวั่นขึ้นมาทันใด เลยคิดจะตะโกนหาคน แต่ก่อนที่จะได้ตะโกนนั้น
เขาก็นึกได้ว่า ไม่มีใครหรืออะไรอยู่แถวนี้ ก็เลยหุบปากที่อ้าขึ้นมาลงในทันใด แล้วเริ่มคิดหาทางออกจากที่นี่
แต่เขาไม่กล้าที่จะขยับตัว เพราะกลัวว่า หากขยับไป ตัวที่เขาลอยอยู่จะตกลงมาทันทีที่ขยับรึเปล่า
อีกใจหนึ่งบอกว่า ถ้าไม่ขยับก็จะลอยเคว้งอยู่อย่างนี้รึไงกัน ขยับแล้วไปข้างหน้าต่อดีกว่า
ทั้งสองใจขัดแย้งกันได้เสี้ยววิ เขาก็เชื่อที่จะทำตามใจฝ่ายหลังของตนเอง
เขาเริ่มลองขยับไปข้างหน้า ด้วยการทำท่าเหมือนท่าว่ายน้ำ
ผลคือเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้โดยไม่ตก! แถมยังหายใจได้ด้วย!
แต่เขายังข้องใจอยู่ว่า สถานที่ที่อยู่นี้คืออะไรกันแน่ ลอยได้แต่กลับไม่ใช่อวกาศ กลับไม่ได้อยู่ในน้ำ
หรือนี่จะเป็นห้องแรงโน้มถ่วง? เขาคิดสรุปเงียบๆ แต่แล้วก็ทิ้งความคิดนั้นไปทันใดเพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นคือการออกจากที่ดำมืดแห่งนี้
แต่เมื่อมองไม่เห็น ไม่รู้ทิศทาง และทุกอย่างว่างเปล่าไปหมด ทำให้เขาไม่อาจจะหาทางออกไปข้างนอกได้
"เป๊ง" เสียงประหลาดที่เหมือนวัตถุกระทบกันดังขึ้น เขาผู้ลอยกลางอากาศได้ยินอย่างชัดเจน เขาหันไปยังทิศทางนั้น
และการได้ยินนี้ได้ทำให้เขาตัดสินใจว่าใช้เสียงนี้เป็นการหาทางออกไปข้างนอกดีกว่า
เสียงประหลาดดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เขาจำแนกทิศทางได้แล้วว่ามาจากทางไหน
เขาเคลื่อนตัวไปทางนั้นโดยอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว..
เขายิ่งเคลื่อนตัวไปทางนั้นมากเท่าใด เขายิ่งได้ยินชัดขึ้นและดังขึ้นกว่าเดิม
ทำให้เขารู้ว่าเริ่มใกล้ถึงทางออกขึ้นมาแล้ว แต่แล้วพอเขาคิดถึงเสียงก็เงียบลงทันใด
เขาชะงักการเคลื่อนไหวของตนเองทันทีที่เสียงหยุดลง
แต่ชะงักได้แปปเดียวเขาก็เคลื่อนที่ตามทิศทางที่เคยได้ยินเสียงนั้น
เขาใช้ 'ประสาทสัมผัส' อีกครั้ง คราวนี้พบว่ามี'กำแพง'เรียบๆด้านหน้า!
รอยยิ้มจางๆเริ่มปรากฏบนใบหน้าเขาอย่างช้าๆก่อนที่จะเคลื่อนหัวไปหา'กำแพง'นั่น
โดยหลักการแล้วพอมีกำแพงแล้ว จะต้องเจอช่องทางออกได้อย่างแน่นอน
เขาคิดเข้าข้างตัวเองอย่างเงียบๆ พอถึงกำแพงเขาลัดเลาะแตะไปตามกำแพงเพื่อหาทางออกทันที
เขาลัดเลาะเป็นเวลานาน เขาก็ได้พบ'กำแพง'อีกด้านหนึ่ง เขานึกไปหากำแพงนั้นแล้วลัดเลาะต่อ
และเป็นแบบนี้หลายครั้งจนเขารู้สึกว่า 'วนอยู่ที่เดิม' หรือ 'หลงทาง'
เขานึกได้แบบนี้จึงหยุดลง และเริ่มสร้างภาพ 'ห้อง' ที่ตัวเองอยู่ข้างในอย่างเป็นรูปเป็นร่าง โดยใช้ความรู้สึกกะเอา
เขาสรุปได้ว่า 'ห้อง' นี้มีกำแพงอยู่ 4 ด้าน เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ้งตอนนี้เขาอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของ 'กำแพง'
เขานิ่งคิดอีกพักหนึ่ง ก็ทำตามความคิดของตัวเองทันที นั่นคือเคลื่อนที่ขึ้นไปข้างบน
ถึงจะประหลาดไปสักหน่อยว่าประตูทางออกจะอยู่ข้างบน.. แต่ว่านี่มัน'ห้อง'ที่ทำให้ลอยได้นี่นา!
ดังนั้นจึงไม่รู้สึกแปลกที่ว่าทางออกอยู่ข้างบนนั้น แปลกประหลาดแม้แต่อย่างใด
หลังจากขึ้นมาได้พักใหญ่ๆ หัวเขาก็ติด 'เพดาน' ของ 'ห้อง'
แล้วเขาก็ทำแบบเดิมคือลัดเลาะไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอทางออก
หลังจากที่เขาลัดเลาะมาพักใหญ่ๆแล้ว ไล่ไปที่ละนิดก็แล้ว ทั้ง'กำแพง' ทั้ง'เพดาน'ก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าทางออกเลยแม้แต่อย่างใด
เขานิ่งคิดอีกครั้ง และ ตัดสินใจที่ทำตามความคิดที่ขัดแย้งกันที่สุด คือการเคลื่อนลงไป 'ข้างล่าง'
แต่ใครจะรู้ละว่าพอเขาลงมาถึงข้างล่างปุ๊ป ตัวเขาก็หนักขึ้นมาในทันใด ทำให้เขาร่วงลงสู่พื้นอย่างเร็ว
ตัวเขากระแทกพื้นดัก ' แอ๊ก ' อย่างช่วยไม่ได้.. เขาลุกขึ้นมาลูบหน้าอย่างเจ็บปวด
แต่ขณะที่ลูบหน้าอยู่นั้น ทำให้เขาเจอ'แสง'ที่ลอดเข้ามาจาก 'ช่องกลางอากาศ'แห่งความมืดนั่น
ถึงเขาจะประหลาดใจอย่างเป็นที่สุด แต่ก็ยังเข้าไปหา 'ช่อง'ที่ว่านั่น
ทันทีที่ถึง เขาก้าวข้ามช่องนั้นเข้าไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย..
หลังจาก'เข้ามา'ในหลุมแล้วก็มีอากาศบริสุทธิ์พุ่งเข้าใส่หน้าอย่างเต็มที่
แสงขาวที่สาดส่องประกายนั้นทำให้เขาแสบตาเล็กน้อย ก่อนที่จะเริ่มปรับสภาพให้กลับมาปกติได้
ถึงตอนนี้เขาจึงเห็นภายนอกได้ชัดเจนที่สุด
'ช่อง' ที่เขาได้เข้ามา หรือทางออกจาก 'ห้อง' นั้นคือประตูเหล็กกล้าที่มีแม่กุญแจครึ่งส่วนห้อยอยู่
ส่วน'ห้อง'ที่เขาได้ออกมานั้นคือโกดังที่เทาหม่น
เขามองไปรอบๆ เห็นมีโกดังอยู่หลายแห่ง และมีหลายสี
ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าแต่ละสีจะบ่งบอกถึงอะไร
แต่เขาก็ไม่ใส่ใจนัก เพราะเขามีคำถามขึ้นมาในหัวขึ้นมาให้คิดอีกแล้ว
...แล้วเราเป็นใครกัน.. ..แล้วออกมาเพื่อทำอะไรกันแน่..
แต่ไม่ทันที่จะได้คิด สายตาของเขาเหลือบไปเห็น'ตึก' ที่อยู่ใกล้ๆลิบนั้น เขาจึงนึกเรื่องทั้งหมดออกในที่สุด
แล้วเขาก็เดินไปยัง ' ตึก ' ตาม ' ความต้องการของตน ' และ ' ความตั้งใจของตน ' แห่งความคิดภายในจิตใจของตนเอง
จบตอนพิเศษ
-----
ตอนที่ 6 "ผู้มาช่วย"
กลางคืนที่มืดสนิทกลับไม่เงียบสงัดเมื่อมีเสียงปืนคำรามดังขึ้นเป็นระยะๆ
กลุ่ม 3 คน ไพวอต(pivotboss) เฮอร์เริร์ม(hererm) วรายุทธ์(warayut)
ที่ถูกสั่งมาลงพื้นที่ที่"โกดัง"ที่พวก Moss กับ sf อยู่ก่อนที่จะหายตัวไป
ตอนนี้ได้สู้กับมือปืนไม่แน่ชัด 2 คน
อีกคนถือปืนที่ติดเป้าเล็งเลเซอร์ ส่วนอีกคนตัวขาวโร่ ที่น่าแปลกก็คืออยู่ในความมืดแท้ๆตัวกลับสีขาว
เฮอร์เริร์มถือปืนพกคู่กระโดดเข้าไปประชิดตัวมือปืนเงาขาว
ส่วนไพวอตไปสู้กับมือปืนเลเซอร์ ส่วนวรายุทธ์กำลังหาทางที่ซู่มยิงไกลเพื่อช่วยสนับสนุน
ถ้าการวางแผนนี่สำเร็จ ชัยชนะก็ตกเป็นของพวกเขา 3 คนได้อย่างสบายๆ
แต่ตอนนี้ พวกเขาโดนมือปืนเลเซอร์และเงาเขาต้อนให้ถอยกลับอยู่บ่อยๆ
เพราะมือปืนเลเซอร์นั้นยิงไวมาก บีบให้ไพวอตนั้นถอยมาหลายรอบ
ด้วยมือปืนกลหนักอย่างเขาที่ความคล่องตัวไม่ค่อยมี ทำให้ไม่สามารถสู้กับมือปืนที่ยิงเร็วขนาดนี้ได้
มือปืนเงาขาวนั่นก็ไม่ธรรมดา ถึงจะยิงช้ากว่ามือปืนเลเซอร์ แต่เขาเล็งแต่หัวอย่างเดียว!
เพราะอย่างนี้เฮอร์เริร์มจึงต้องเปิดสัญชาตญาณขึ้นถึงขีดสูงสุด เพื่อให้หัวตัวเองไม่เกิดรูขึ้น
ส่วนวรายุทธ์นั้นไปไหนไม่ได้ เพราะจะมีมือปืนเลเซอร์ ไม่ก็ เงาขาวมายิงสกัดทุกครั้ง
ที่เขาจะวิ่งไปหาพื้นที่ในการซุ่มยิง เพราะมือปืนทั้ง 2 คนเป็นมือปืนเหมือนกันจึงเข้าใจดีว่า
ถ้ามือปืนระยะไกลมีช่องว่างไปซุ่มเมื่อไร พวกเขาจะตกเป็นรองทันที เพราะทางนั้นมีจำนวนมากกว่า
ทั้งหมดนี้เพราะมือปืนทั้ง 2 เป็นคนบุกก่อน ทำให้เกิดความได้เปรียบ
ณ ตอนนี้ สถานการณ์ของกลุ่มเฮอร์เริร์มกำลังยำแย่ลงเรื่อยๆ ตอนนี้ห่างจากจุดหมายราวๆ 6 กิโลเมตรแล้ว
"เอาไงดีครับ ท่านรอง" ไพวอตตะโกนขึ้นอย่างร้อนรน
"ใจเย็นๆก่อน" ท่านรอง หรือ เฮอร์เริร์มพูดขึ้นพร้อมหลบกระสุนอย่างใจเย็น
"ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ยำแย่เท่าไร เพียงมีช่องว่างเท่านั้น เราก็จะบุกกลับมาได้"
"แล้วเมื่อไรจะมีช่องว่างละ...อ๊ะ" วรายุทธ์พูดขึ้นมาบ้าง และทำหน้านึกออกในทันใด
"เราปาระเบิดใส่พวกนั้นเป็นไง แบบนี้ก็น่าจะมีช่องอยู่นะ"
ไพวอตกราดปืนกลสวนกลับไปแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "เมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมาก็ทำไปแล้วรอบหนึ่งไปแล้วไง จำไม่ได้หรอ"
"พอปาไปพวกนั้นยิงระเบิดสะกัด ได้อย่างว่องอีกต่างหาก แถมพวกเราต้องถอยร่นเพราะแรงระเบิดตัวเองอีก"
เฮอร์เริร์มเคลื่อนไหวหลบกระสุนไปไปพร้อมกับพูดต่อให้ไพวอตจนจบแล้วทำหน้าเบื่อโลก
วรายุทธ์ยังไม่ย่อท้อ เสนอความคิดมาอีกว่า "งั้นเลาะไปด้านหลังพวกมันดีม่ะ"
ไพวอตได้ยินก็ถอนหายใจหลบกระสุน แล้วพูดขึ้นว่า "แผนนั้นเคยใช้ไปแล้วไง แต่พวกมันไม่เคยปล่อยช่องว่างให้เลย"
"เดี๋ยวก่อน" จู่ๆเฮอร์เริร์มก็พูดขึ้นมา แล้วยิ้มอย่างมีเล่ห์ "ฉันมีแผนแล้ว"
....
มือปืนเลเซอร์ และมือปืนเงาขาวที่อยู่หลังเนินกลุ่ม 3 คนได้รู้สึกว่า พวกนั้นไม่ยิงโต้ตอบกลับแล้ว แถมได้ยินเสียงโลหะดึงออกอีกด้วย
มือปืนได้ยินดังนี้ก็คาดการณ์ว่า พวกนั้นจะใช้ระเบิดปาเพื่อหาช่องว่างแน่นอน เขาได้หันไปทางที่ได้ยินเสียงทันที
จริงๆด้วย!! มือปืนทั้งสองรู้สึกถึง วัตถุที่ลอยมากลางอากาศกำลังมุ่งตรงมาห เขาจึงยิงไปหาวัตถุนั้นด้วยความเร็วเช่นเดิม และระเบิดขึ้นเหมือนครั้งก่อนๆ
แต่ครั้งนี้กระสุนกระทบกับวัตถุกลางอากาศ แต่วัตถุนั้นกลับไม่ระเบิด แต่กลับมีฝุ่นผงระเบิดกระจายมาจากกลางอากาศแทน
มือปืนทั้งสองประหลาดใจหนัก แต่ก็แค่ชั่วขณะเท่านั้น และก็หันกลับมาคิดได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่ยิงนั้นคือก้อนหิน!!
แต่พวกเขาได้ยินเสียงแกะสลักระเบิดอย่างแน่นอน ถ้าสิ่งที่ยิงไปคือก้อนหินละก็ แล้วระเบิดจริงละอยู่ตรงไหน?
พวกเขายังไม่ทันได้คิดต่อ วัตถุที่พวกเขากำลังหานั้นก็กลิ้งมาตำแหน่งของพวกเขาอย่างช้าๆ...
บรึ้มมมมมมมมม!!!!!!
แสงวาบเกิดขึ้นตรงระหว่างเนินทรายทันใด หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดครั้งรุนแรง ทรายจากเนินแตกกระจายไปทั่วบริเวณ
"พวกเรา ช่องว่างเปิดแล้ว รีบบุกสวนกลับเร็ว!!!!"
ที่แผนนี้สำเร็จได้เพราะ ความมืด
สัมผัสของคนเราที่ไว้จับวัตถุนั้นมีอยู่สามสิ่ง ตา หู และความรู้สึก
เมื่อคนเราอยู่ในที่มืด สายตาของคนเราจะมองอะไรไม่เห็นได้ดีเท่าตอนสว่าง (แต่สำหรับกลุ่มเฮอร์เริร์มนั้นไม่เป็นไร เพราะใส่แว่นอินฟราเรด)
สิ่งที่จะใช้ในการสัมผัสที่เหลือก็เหลือแค่เสียงกับความรู้สึก เป็นสิ่งที่พวกมือปืนส่วนใหญ่ที่ยิงเร็วไวและแม่นยำมักจะใช้กัน
รองหัวหน้าเฮอร์เริร์มรู้ถึงจุดนี้ดี จึงใช้เสียงแกะสลักระเบิดเป็นตัวล่อ แล้วให้วรายุทธ์ปาก้อนหินเป็นแนวโค้งไปก่อน แล้วเขาค่อยกลิ้งระเบิดตามไป
พวกมือปืนได้ยินเสียงเหล่านี้ก็ทึกทักเอากันไปเองว่าที่โยนมาต้องเป็นระเบิดแน่นอน จึงโดนหลุมพรางอย่างง่ายดาย
เฮอร์เริร์มเห็นว่ามือปืนเงาขาวที่ยิงได้แม่นยำนั้นเป็นภัยมากกว่า เขาจึงวิ่งถือปืนพกคู่วิ่งบุกเข้าหาทันที
ไพวอตเห็นรองไปจัดการมือปืนงาขาวแล้ว เขาจึงวิ่งถือปืนกลหนักกราดเข้าไปหามือปืนเลเซอร์ดังสมปรารถนา (?)
ส่วนวรายุทธ์นั้นวิ่งหาที่ซุ่มได้แล้วก็เตรียมเล็งซุ่มเพื่อสนับสนุนคนอื่นในทีม
สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มือปืนเลเซอร์ และมือปืนเงาขาวเริ่มเป็นฝ่ายถอยบ้างแล้ว...
ด้วยความเร็วที่เท่าเทียมกันของเฮอร์เริร์ม ความได้เปรียบและการสนับสนุนของวรายุทธ์ ทำให้มือปืนเงาขาวได้แต่หลบอย่างเดียว ปืนแทบไม่ได้ชัก
ส่วนด้านไพวอตนั้นก็เป็นไปด้วยดี เพราะการเริ่มโจมตีก่อน และความรัว(+กระสุนเยอะ)ของปืนกล ทำให้กลายเป็นฝ่ายรุก อยู่
มือปืนเลเซอร์แทบไร้โอกาสโจมตีกลับ เอาแต่หลบในเนินอย่างเดียว
ตอนนี้อยู่ห่างจากโกดังไม่ถึง 200 เมตรแล้ว
เหมือนสถานการณ์กำลังเป็นไปด้วยดี แต่จู่ๆวรายุทธ์ก็ไม่ยิงซะแล้ว!!
เมื่อไม่มีการสนับสนุนของวรายุทธ์ ทำให้มือปืนเงาขาวได้ตอบโต้กลับได้ แต่รองหัวหน้าเฮอร์เริร์มก็เก่งไม่แพ้กัน ทำให้คู่นี้สูสีกัน
แต่ทางด้านไพวอตไม่ได้ดีแบบนั้น ทันทีที่วรายุทธ์หยุดยิง มือปืนเลเซอร์ก็ตอบโต้รวดเร็วมาก จนไพวอตรับมือแทบไม่ทัน
"บ้าจริง เจ้าวรายุทธ์มัวทำอะไรอยู่" ไพวอตบ่นแบบนี้ออกมาเบาๆขณะหลบกระสุนของมือปืนเลเซอร์
ตอนแรกเขาคิดว่าวรายุทธ์กระสุนหมด เลยกำลังเสียเวลาเติมกระสุนอยู่ แต่ตอนนี้เวลาผ่านมาหลายนาทีแล้วนี่นาหรือว่าจะแปรพักตร์!?
แต่คิดแบบนี้ได้แปปเดียวก็มีอีกความคิดที่ขัดค้านสุดขั้วโผล่ขึ้นมา 'ถ้าแปรพักตร์จริงก็ต้องยิงใส่เขาแล้ว ดังนั้นไม่น่าเป็นไปได้'
หรือว่า.... จะเสร็จไปแล้ว?
พอคิดได้แบบนี้ก็กังวลขึ้นมาทันใด คราวนี้มีมือที่ 3 เข้ามาช่วย? หรือพรรคพวกอื่นของเจ้าพวกนี้?
แต่ไม่ว่าเรื่องที่คิดนั้นจะจริงหรือไม่ หน้าที่เขาตอนนี้ก็คือต้องต้านมือปืนเลเซอร์ไว้
เพื่อไม่ให้เข้าไปหารองหัวหน้าจนกว่าทางนั้นจะจัดการศัตรูเสร็จก่อนดีกว่า
คิดได้แบบนี้ก็เข้าไปกราดปืนใส่มือปืนเลเซอร์ด้วยใจเด็ดเดี่ยว
แต่ทว่าจุดเดิมที่เป้าหมายได้อยู่นั้นหายไปเสียแล้ว
ไพวอตตะลึงอย่างแรง หรือเจ้ามือปืนนั้นใช้จังหวะที่เขาคิดอยู่ไปหาทางนั้นแล้ว? บ้าชะมัด แบบนี้ก็จบเห่นะสิ
เพราะกำลังคิดอยู่ไพวอตตอนนี้ก็ยืนนิ่ง และตอนนี้เอง จุดเลเซอร์ก็โผล่มาตรงหน้าผาก!!
ไพวอตรู้สึกตัวแทบจะในทันที แล้วใช้สัญชาตญาณในการเบี่ยงตัวหลบ
มือปืนเลเซอร์คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะต้องหลบ ปืนที่กำลังลั่นไกจึงเอี่ยวไปหาไพวอตอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกดปล่อยกระสุน
ปังงงง!!! ปังงงง!!! ปังงง!!! ปังงงง!!!!
กระสุนสี่นัดพุ่งไปเจาะตำแหน่งที่แขนกับขาของไพวอตทันที ทำให้มือของเขารับน้ำหนักของปืนกลไม่ไหว
ทำให้ปืนกลหนักที่ถือนั้นร่วงลงมาทันที
'บ้าชะมัด' ไพวอตคิด 'เจ้านี่แกล้งจะไปช่วยอีกฝั่ง แต่จริงๆแล้ว จะอ้อมมาดักจัดการเขาก่อนต่างหาก'
เมื่อไม่มีอาวุธ ไพวอตก็เหมือนคนพิการ จะสู้อะไรกับคนที่ถือปืนได้..
ขณะที่ มือปืนเลเซอร์กำลังจะเหนี่ยวไกดับชีวิตผู้ไร้อาวุธอยู่นั้น
สัญชาตญาณของเขาก็เตือนร้องอย่างรุนแรงว่ามีอะไรกำลังพุ่งโจมตี
มือปืนเลเซอร์จึงกระโดดออกจากที่ตรงนั้นทันที
ทันทีที่โดดออกไปนั้น มีไฟลูกหนึ่งพุ่งเขามาตรงจุดเดิมที่มือปืนเลยอยู่
เมื่อไฟนั่นกระทบกับพื้นก็เกิดแรงระเบิดทันที
ตูมมมมมมมมมมม!!!
ควันจากผงทรายพุ่งกระจายไปทุกทิศทุกทาง เกิดแรงดันอากาศ ณ จุดนั้น และบดบังทัศนียภาพแถวนั้นไปชั่วขณะ
"มาทันจนได้" เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย ไพวอตตะลึง เสียงนี้เขาไม่ได้ยินมานานแล้ว...
ทางมือปืนเลเซอร์ ที่มองไม่เห็นเพราะฝุ่นที่ฟุ้งนั้น ได้ยินเสียงของชายที่อยู่ข้างใน ก็กดปืนลั่นไกใส่อย่างรวดเร็ว
แต่ชายภายในฝุ่นไม่แคร์เท่าไร เขาพุ่งตรงมาหา พร้อมกับเอนตัวหลบกระสุนไปด้วย เพราะอย่างนี้มือปืนเลเซอร์จึงยืนตกตะลึง
ถึงตอนนี้ชายคนนั้นก็มีโอกาสแล้ว จึงใช้ขาข้างขวาที่มีเพลิงร้อนระอุ วาดขา เตะใส่มือปืนเลเซอร์ทันที
เปรี้ยงงง!!! มือปืนเลเซอร์โดนเตะปลิวกระแทกกับเนินหินข้างๆ
เขาได้รับแรงเจ็บทั้งการเผาไหม้ของขา แรงเตะของขา และแรงกระแทกของเนินหิน ทำให้ตกลงมาอย่างไม่สวยงาม
"เป็นอะไรไหม ไพวอต" ชายเท้าไฟถามขึ้นมาพร้อมสีหน้าอันเรียบนิ่ง
ไพวอตที่เห็นเหตุการณ์นี้ตกตะลึงไปนาน พอชายเท้าไฟถามขึ้นมา เขาถึงหาเสียงของตัวเองเจอ
"สติกเอ็ต!!"
....
จบตอน
แก้ไขล่าสุดโดย Black Of King เมื่อ Tue 27 Sep 2011 - 19:08, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Black Of King- Administrator
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 1752
คำขอบคุณ : 101
Join date : 05/04/2009
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Purpleeeeee!
EXP:
(513/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
Stick ed จะเป็นฝั่งไหนละเนี่ยเพราะเจ้าตัวมีตัวเดียว แถมแค่หายไปเฉยๆนา..
Zenigame- Stick shooter
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 1967
คำขอบคุณ : 56
Join date : 30/04/2010
: 27
ที่อยู่ : โปเกบอล
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(0/0)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
ตอนที่ 7 "Switch Battle"
กลับมาที่ตึกไทยสติก..
"นายนี่มัน.. แข็งแกร่งชะมัด" ชิฟท์พูดขึ้นขณะที่นั่งด้วยท่าคุกเข่า
รอบๆตัวมีร่างโคลนของตัวเองนอนอยู่เต็มไปหมด หลายตัวอยู่บนพื้น บางตัวปักอยู่กับเสา
หน้าต่างแตกกระจายเต็มไปหมด
"เหอะๆ เราแข็งแกร่งอยู่แล้ว" คุง คาม่าร่าพูดขึ้นอย่างทระนงพร้อมกับรอยยิ้มร่า
และทันทีที่พูดจบหมัดของคุงก็ซัดไปที่ท้องของชิฟท์ทันใด
ชิฟท์ที่ตั้งตัวไม่ทันกับหมัดนี้ก็โดนหมัดของคุงเข้าไปเต็มเปา
"ตูมม!!!" เสียงแรงหมัดดังสะท้านลั่น ชิฟท์โดนหมัดตัวลอยตามแรงที่ได้รับ
ปลิวไปชนกำแพงอย่าแรง ทำให้เกิดรอยยุบร้าวลึกบนกำแพง ทำให้ชิฟท์ติดแข็งอยู่บนผนังห้อง
คุงไม่รอช้า กระโดดตามไปที่กำแพง ง้างหมัดเตรียมใส่กำลังเต็มที่ใส่ชิฟท์!!
แต่ชิฟท์นั้นไม่ยอมให้ต่อยง่ายๆ เขาได้แยกร่างออกมาอีกร่าง แล้วจับขาคุงกลางอากาศ
ด้วยแรงโน้มถ่วงรวมกับแรงดึงของร่างแยก คุงจึงถูกดึงลงมากลางอากาศตามแรง
ทำให้หมัดที่จะโดนเป้าหมายนั้นจั่วไปในอากาศแทน
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เมื่อเท้าของร่างแยกถึงพื้นก็จับขาทั้ง 2 ข้างของศัตรูแล้วทุ่มลงไปทันที!!
ตึงงง!!
เสียงกระแทกพื้นดังลั่น แต่คุงไม่เป็นไร มีมือมาค้ำได้ทันเวลา
แขนของคุงงอลงช้าๆเพื่อกระจายแรงกระแทกที่ได้รับ หลังจากนั้นหมุนตัวเตะเข้าสีข้างของชิฟท์ร่างโคลน
โดยเอามือข้างหนึ่งยืนพื้นเป็นเสาหลัก
ร่างโคลนที่ถูกโจมตีปลิวพุ่งทะลุหน้าต่างที่ไร้กระจกตามไปสมทบกับพวกเดียวกันที่อยู่ข้างนอก
แต่พอเมื่อคุงลุกขึ้นมาแล้วหันไปหาชิฟท์ที่เป็นร่างจริง เจ้าตัวก็ดันหายไปไหนไม่รู้เสียแล้ว..
พอคุงเห็นอย่างนั้นก็คลั่ง แล้วจึงคำรามลั่น "บ้าเอ๊ย!! แกหนีไม่รอดหรอกโว้ยย!!"
--
อีกด้าน
-Roxas VS Yoyo-
โรแซสขว้างโยโย่ใส่ศัตรูผู้มีชื่อเหมือนอาวุธ(โยโย่) แต่อีกฝ่ายหลบไปหลังเสาทำให้การโจมตีไม่ได้ผล
โยโย่ใช้จังหวะนี้ขว้างกลับใส่บ้าง โรแซสก็ใช้เทคนิคเดียวกับโยโย่นั่นคือ หลบไปหลังเสา
อาวุธของโยโย่พุ่งผ่านจุดที่โรแซสอยู่อย่างแรงลอยไปไกลข้ามไปมากกว่า 2 เสา โรแซสจึงคิดใช้โอกาสที่หลบได้ดึงโยโย่อาวุธตัวเองกลับมา
แต่ทว่าโยโย่กระตุกเชือกอย่างรุนแรง ทำให้อาวุธโยโย่นั้นโค้งอย่างมีเทคนิค พาดเสาต้นที่สองแล้ววกมาต้นที่โรแซสอยู่!!
โรแซสตอบโต้กลับไม่ได้ทันเวลาจึงรับแรงการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม..
"เปรี้ยงงง!!" หน้าของโรแซสเอียงตามแรงที่ส่งมาจากโยโย่ ทำให้หน้าบิดไปด้านข้างลำตัว ตัวลอยออกมาจากเสาที่ซ่อน
โรแซสมึนงงไปชั่วขณะเพราะอาวุธของคู่ต่อสู้กระแทกเข้าที่คาง และภายในเสี้ยววินาทีก็จู่โจมกลับโดยการพุ่งเข้าหาโยโย่อย่างรวดเร็ว!!
โยโย่เห็นว่าดึงอาวุธกลับมาไม่ทันแน่นอนจึงกำหมัดที่มีเชือก แล้วพุ่งหมัดใส่โรแซสที่พุ่งมาสวนกลับ
โรแซสโยกตัวหลบฉากไปข้างๆอย่างง่ายๆ ก่อนจะเตะสวนกลับไปกระแทกคางของศัตรู!!!
"บึกก!!" คางของโยโย่บิดขึ้นไปข้างบนตามแรงหน้าหันไปข้างหลัง ตัวลอยกลางอากาศ
แต่การโจมตียังไม่จบแค่นั้น!! โรแซสใช้หมัดต่อเนื่อง เอามืออีกข้างที่เตรียมรอไว้แล้วพุ่งสวนอัดไปที่ท้อง
ความเจ็บของโยโย่ที่ได้รับมาจากการเตะยังไม่ทันจางหาย ความเจ็บที่ท้องก็มาเพิ่ม ทำให้ตัวงองุ่มกลางอากาศ
ตัวของโยโย่ที่โดนหมัดก็ลอยไปชนเสา..
"โครมมมมม!!" ด้วยแรงที่ส่งมา ทำให้ตัวโยโย่เด้งออกจากเสา และด้วยสติที่เลือนลาง ทำให้ตัวล้มลงไปกองกับพื้น
พร้อมๆกับอาวุธของตัวเอง..
"โครม" "แกร้งง แกร้ง.." เสียงอาวุธกับผู้ใช้ตกพื้นดังพร้อมกัน
โรแซสเปลี่ยนท่าจากต่อยกลับมายืน ปรายตามองคู่ต่อสู้
ก่อนที่จะเอามือที่พึ่งต่อยไปเช็ดเลือดที่หน้า และถอนหายใจ...
จังหวะนั้นเอง เขาก็รู้สึกถึงแรงลมที่พุ่งเข้ามาที่ใบหน้าอย่างเร็ว!!
โรแซสถอยหลังตามสัญชาตญาณแล้วมองไปผู้โจมตี
คุง คามาร่านั่นเอง เขาได้ค้างท่าที่ปล่อยหมัดไว้แล้วพูดขึ้นพร้อมรอยเหยียดยิ้ม
"ในเมื่อหาไอ้เจ้านั่นไม่เจอ ขอเล่นกับแกแทนหน่อยก็แล้วกันนะ.."
โรแซสเห็นออร่าที่แผ่ออกมาของคุงก็ซีดไปแวบหนึ่ง ก่อนที่จะกระตุกเชือกถึงโยโย่กลับมา
ด้วยแรงเชือกทำให้โยโย่ลอยกลับมาสู่เจ้าของ
เมื่อคุงเห็นอาวุธของศัตรูก็พูดเรียบๆ "ไอ้ของกระจอกพรรค์นั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอกนะ.."
"จะได้ไม่ได้.." โรสแซสพูดขึ้นช้าๆ "เดี๋ยวก็รู้...เองแหละ!!"
หลังจากตะโกน 2 คำสุดท้ายแล้วก็สะบัดมือ ด้วยความเร็วทำให้มือเห็นเป็นเงารางๆ
โยโย่พุ่งด้วยความแรงที่ส่งตามมาเชือก ไปหาคุงคามาร่า แต่เจ้าผู้ถูกโจมตีกลับทำสีหน้าเหยียดหยามดูถูก
และยืนนิ่งรอรับแรงกระแทก
"ตูม!!!" โยโย่กระแทกเข้าเต็มแรง ทำให้ตัวคุง คามาร่าเอียงตัวตามแรงกระแทก
แล้วเอามือกุ่มจุดที่โดนกระแทก ร่างกายเซไปเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมายืน
คุงยิ้มเยือก "โยโย่ของเจ้ามันก็ไม่เลวเลยนี่หว่า.... หึหึ.."
โรแซสไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่เขาตวัดโยโย่ไปด้านหลังตัวเอง
หลังจากนั้นก็บิดตัวไปข้างหลัง แล้วตวัดมืออีกครั้ง
แต่ในจังหวะที่บิดตัวคุงก็กระโดดพุ่งเข้าไปหาโรแซสแล้วง้างหมัดเตรียมต่อยเรียบร้อยแล้ว
แต่ทว่าการเขวี้ยงขอโรแซสนั้นผิดพลาด ดันไปโดนเสาแถวนั้น
ซึ่งคุงที่อยู่เกือบใกล้ถึงระยะหวังผลการโจมตีก็หัวเราะลั่น
"แกพลาดแล้วว้อยย ที่นี้แหละ แกก็จะโดนหมัดของข้ากระจุยแน่นอน!!"
"ไม่หรอก"
โรแซสพูดขึ้นในจังหวะที่คุงถึงตัว "ฉันไม่มีทางพลาดเพราะคำนวณไว้แล้ว.."
คุงคามาร่าพูดเสียงกระซิบ "แต่แกพลาดเห็นๆเลยว่ะ"
พอถึงระยะ คุง คามาร่าผู้มีพลังมหาศาลก็ปล่อยหมัดใสโรแซสที่ใบหน้า เพื่อกะตายภายในการโจมตีครั้งเดียว!!
แต่หมัดยังไปไม่ถึงครึ่งทาง โยโย่ก็กระแทกเข้าที่ใบหน้าของคุงอย่างจัง!!!
คุงเอียงหน้าตามแรงไปอีกครั้ง ส่งผลให้ตัวเอียงตาม ทำให้หมัดเบี่ยงทิศ
โรแซสไม่ได้โจมตีพลาด แต่เขาใช้เทคนิคเดียวกันกับที่โยโย่โจมตี นั่นก็คือ
ใช้เชือกพาดเสาต้นนั้น ทำให้โยโย่นั่นวกวนมากระแทกใบหน้านั่นเอง นีเป็นสิ่งที่คำนวณไว้แล้ว
แต่ยังไงก้ตาม ก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ดี เพราะหมัดของคุงนั้นได้เบี่ยงมาโดนไหล่ของโรแซส
เมื่อได้รับแรงกระแทกเข้าที่ไหล่ ทำให้ไหล่บิดตามแรง จนตัวลอยออกจากพื้น
"ตูมมมมมมม!!!!" "โครมมมมมมมม!!!" ตัวโรแซสที่รับแรงหมัดไปบินไปชนกับกำแพงทะลุออกมาด้านนอก
คุงเดินตามร่างที่กระเด็นไปพร้อมๆกับเกาหัวไป "แต่ละคนไม่ไหวเอาซะเล้ย.."
จบตอนที่ 7..
-----
กลับมาที่ตึกไทยสติก..
"นายนี่มัน.. แข็งแกร่งชะมัด" ชิฟท์พูดขึ้นขณะที่นั่งด้วยท่าคุกเข่า
รอบๆตัวมีร่างโคลนของตัวเองนอนอยู่เต็มไปหมด หลายตัวอยู่บนพื้น บางตัวปักอยู่กับเสา
หน้าต่างแตกกระจายเต็มไปหมด
"เหอะๆ เราแข็งแกร่งอยู่แล้ว" คุง คาม่าร่าพูดขึ้นอย่างทระนงพร้อมกับรอยยิ้มร่า
และทันทีที่พูดจบหมัดของคุงก็ซัดไปที่ท้องของชิฟท์ทันใด
ชิฟท์ที่ตั้งตัวไม่ทันกับหมัดนี้ก็โดนหมัดของคุงเข้าไปเต็มเปา
"ตูมม!!!" เสียงแรงหมัดดังสะท้านลั่น ชิฟท์โดนหมัดตัวลอยตามแรงที่ได้รับ
ปลิวไปชนกำแพงอย่าแรง ทำให้เกิดรอยยุบร้าวลึกบนกำแพง ทำให้ชิฟท์ติดแข็งอยู่บนผนังห้อง
คุงไม่รอช้า กระโดดตามไปที่กำแพง ง้างหมัดเตรียมใส่กำลังเต็มที่ใส่ชิฟท์!!
แต่ชิฟท์นั้นไม่ยอมให้ต่อยง่ายๆ เขาได้แยกร่างออกมาอีกร่าง แล้วจับขาคุงกลางอากาศ
ด้วยแรงโน้มถ่วงรวมกับแรงดึงของร่างแยก คุงจึงถูกดึงลงมากลางอากาศตามแรง
ทำให้หมัดที่จะโดนเป้าหมายนั้นจั่วไปในอากาศแทน
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เมื่อเท้าของร่างแยกถึงพื้นก็จับขาทั้ง 2 ข้างของศัตรูแล้วทุ่มลงไปทันที!!
ตึงงง!!
เสียงกระแทกพื้นดังลั่น แต่คุงไม่เป็นไร มีมือมาค้ำได้ทันเวลา
แขนของคุงงอลงช้าๆเพื่อกระจายแรงกระแทกที่ได้รับ หลังจากนั้นหมุนตัวเตะเข้าสีข้างของชิฟท์ร่างโคลน
โดยเอามือข้างหนึ่งยืนพื้นเป็นเสาหลัก
ร่างโคลนที่ถูกโจมตีปลิวพุ่งทะลุหน้าต่างที่ไร้กระจกตามไปสมทบกับพวกเดียวกันที่อยู่ข้างนอก
แต่พอเมื่อคุงลุกขึ้นมาแล้วหันไปหาชิฟท์ที่เป็นร่างจริง เจ้าตัวก็ดันหายไปไหนไม่รู้เสียแล้ว..
พอคุงเห็นอย่างนั้นก็คลั่ง แล้วจึงคำรามลั่น "บ้าเอ๊ย!! แกหนีไม่รอดหรอกโว้ยย!!"
--
อีกด้าน
-Roxas VS Yoyo-
โรแซสขว้างโยโย่ใส่ศัตรูผู้มีชื่อเหมือนอาวุธ(โยโย่) แต่อีกฝ่ายหลบไปหลังเสาทำให้การโจมตีไม่ได้ผล
โยโย่ใช้จังหวะนี้ขว้างกลับใส่บ้าง โรแซสก็ใช้เทคนิคเดียวกับโยโย่นั่นคือ หลบไปหลังเสา
อาวุธของโยโย่พุ่งผ่านจุดที่โรแซสอยู่อย่างแรงลอยไปไกลข้ามไปมากกว่า 2 เสา โรแซสจึงคิดใช้โอกาสที่หลบได้ดึงโยโย่อาวุธตัวเองกลับมา
แต่ทว่าโยโย่กระตุกเชือกอย่างรุนแรง ทำให้อาวุธโยโย่นั้นโค้งอย่างมีเทคนิค พาดเสาต้นที่สองแล้ววกมาต้นที่โรแซสอยู่!!
โรแซสตอบโต้กลับไม่ได้ทันเวลาจึงรับแรงการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม..
"เปรี้ยงงง!!" หน้าของโรแซสเอียงตามแรงที่ส่งมาจากโยโย่ ทำให้หน้าบิดไปด้านข้างลำตัว ตัวลอยออกมาจากเสาที่ซ่อน
โรแซสมึนงงไปชั่วขณะเพราะอาวุธของคู่ต่อสู้กระแทกเข้าที่คาง และภายในเสี้ยววินาทีก็จู่โจมกลับโดยการพุ่งเข้าหาโยโย่อย่างรวดเร็ว!!
โยโย่เห็นว่าดึงอาวุธกลับมาไม่ทันแน่นอนจึงกำหมัดที่มีเชือก แล้วพุ่งหมัดใส่โรแซสที่พุ่งมาสวนกลับ
โรแซสโยกตัวหลบฉากไปข้างๆอย่างง่ายๆ ก่อนจะเตะสวนกลับไปกระแทกคางของศัตรู!!!
"บึกก!!" คางของโยโย่บิดขึ้นไปข้างบนตามแรงหน้าหันไปข้างหลัง ตัวลอยกลางอากาศ
แต่การโจมตียังไม่จบแค่นั้น!! โรแซสใช้หมัดต่อเนื่อง เอามืออีกข้างที่เตรียมรอไว้แล้วพุ่งสวนอัดไปที่ท้อง
ความเจ็บของโยโย่ที่ได้รับมาจากการเตะยังไม่ทันจางหาย ความเจ็บที่ท้องก็มาเพิ่ม ทำให้ตัวงองุ่มกลางอากาศ
ตัวของโยโย่ที่โดนหมัดก็ลอยไปชนเสา..
"โครมมมมม!!" ด้วยแรงที่ส่งมา ทำให้ตัวโยโย่เด้งออกจากเสา และด้วยสติที่เลือนลาง ทำให้ตัวล้มลงไปกองกับพื้น
พร้อมๆกับอาวุธของตัวเอง..
"โครม" "แกร้งง แกร้ง.." เสียงอาวุธกับผู้ใช้ตกพื้นดังพร้อมกัน
โรแซสเปลี่ยนท่าจากต่อยกลับมายืน ปรายตามองคู่ต่อสู้
ก่อนที่จะเอามือที่พึ่งต่อยไปเช็ดเลือดที่หน้า และถอนหายใจ...
จังหวะนั้นเอง เขาก็รู้สึกถึงแรงลมที่พุ่งเข้ามาที่ใบหน้าอย่างเร็ว!!
โรแซสถอยหลังตามสัญชาตญาณแล้วมองไปผู้โจมตี
คุง คามาร่านั่นเอง เขาได้ค้างท่าที่ปล่อยหมัดไว้แล้วพูดขึ้นพร้อมรอยเหยียดยิ้ม
"ในเมื่อหาไอ้เจ้านั่นไม่เจอ ขอเล่นกับแกแทนหน่อยก็แล้วกันนะ.."
โรแซสเห็นออร่าที่แผ่ออกมาของคุงก็ซีดไปแวบหนึ่ง ก่อนที่จะกระตุกเชือกถึงโยโย่กลับมา
ด้วยแรงเชือกทำให้โยโย่ลอยกลับมาสู่เจ้าของ
เมื่อคุงเห็นอาวุธของศัตรูก็พูดเรียบๆ "ไอ้ของกระจอกพรรค์นั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอกนะ.."
"จะได้ไม่ได้.." โรสแซสพูดขึ้นช้าๆ "เดี๋ยวก็รู้...เองแหละ!!"
หลังจากตะโกน 2 คำสุดท้ายแล้วก็สะบัดมือ ด้วยความเร็วทำให้มือเห็นเป็นเงารางๆ
โยโย่พุ่งด้วยความแรงที่ส่งตามมาเชือก ไปหาคุงคามาร่า แต่เจ้าผู้ถูกโจมตีกลับทำสีหน้าเหยียดหยามดูถูก
และยืนนิ่งรอรับแรงกระแทก
"ตูม!!!" โยโย่กระแทกเข้าเต็มแรง ทำให้ตัวคุง คามาร่าเอียงตัวตามแรงกระแทก
แล้วเอามือกุ่มจุดที่โดนกระแทก ร่างกายเซไปเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมายืน
คุงยิ้มเยือก "โยโย่ของเจ้ามันก็ไม่เลวเลยนี่หว่า.... หึหึ.."
โรแซสไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่เขาตวัดโยโย่ไปด้านหลังตัวเอง
หลังจากนั้นก็บิดตัวไปข้างหลัง แล้วตวัดมืออีกครั้ง
แต่ในจังหวะที่บิดตัวคุงก็กระโดดพุ่งเข้าไปหาโรแซสแล้วง้างหมัดเตรียมต่อยเรียบร้อยแล้ว
แต่ทว่าการเขวี้ยงขอโรแซสนั้นผิดพลาด ดันไปโดนเสาแถวนั้น
ซึ่งคุงที่อยู่เกือบใกล้ถึงระยะหวังผลการโจมตีก็หัวเราะลั่น
"แกพลาดแล้วว้อยย ที่นี้แหละ แกก็จะโดนหมัดของข้ากระจุยแน่นอน!!"
"ไม่หรอก"
โรแซสพูดขึ้นในจังหวะที่คุงถึงตัว "ฉันไม่มีทางพลาดเพราะคำนวณไว้แล้ว.."
คุงคามาร่าพูดเสียงกระซิบ "แต่แกพลาดเห็นๆเลยว่ะ"
พอถึงระยะ คุง คามาร่าผู้มีพลังมหาศาลก็ปล่อยหมัดใสโรแซสที่ใบหน้า เพื่อกะตายภายในการโจมตีครั้งเดียว!!
แต่หมัดยังไปไม่ถึงครึ่งทาง โยโย่ก็กระแทกเข้าที่ใบหน้าของคุงอย่างจัง!!!
คุงเอียงหน้าตามแรงไปอีกครั้ง ส่งผลให้ตัวเอียงตาม ทำให้หมัดเบี่ยงทิศ
โรแซสไม่ได้โจมตีพลาด แต่เขาใช้เทคนิคเดียวกันกับที่โยโย่โจมตี นั่นก็คือ
ใช้เชือกพาดเสาต้นนั้น ทำให้โยโย่นั่นวกวนมากระแทกใบหน้านั่นเอง นีเป็นสิ่งที่คำนวณไว้แล้ว
แต่ยังไงก้ตาม ก็ได้รับบาดเจ็บอยู่ดี เพราะหมัดของคุงนั้นได้เบี่ยงมาโดนไหล่ของโรแซส
เมื่อได้รับแรงกระแทกเข้าที่ไหล่ ทำให้ไหล่บิดตามแรง จนตัวลอยออกจากพื้น
"ตูมมมมมมม!!!!" "โครมมมมมมมม!!!" ตัวโรแซสที่รับแรงหมัดไปบินไปชนกับกำแพงทะลุออกมาด้านนอก
คุงเดินตามร่างที่กระเด็นไปพร้อมๆกับเกาหัวไป "แต่ละคนไม่ไหวเอาซะเล้ย.."
จบตอนที่ 7..
-----
แก้ไขล่าสุดโดย Black Of King เมื่อ Sat 19 May 2012 - 1:57, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Black Of King- Administrator
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 1752
คำขอบคุณ : 101
Join date : 05/04/2009
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Purpleeeeee!
EXP:
(513/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
อ่านแล้วรุสึกแปลกๆ แต่ก็บางฉาก ก็มันส์ดีครับ แต่เรียกกัน ท่านมอส ท่านู้น ท่านนี้ มันรู้สึกไม่ค่อยได้อารมณ์ภาพ 555
QuadraIdean- Beginner
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 33
คำขอบคุณ : -8
Join date : 02/03/2012
ที่อยู่ : 28/12 ถนนสนามเป้า ซอยบางจาก2 ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
Level :
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
สู้กันมันส์แท้ แต่รู้สึกการบรรยายบางช่วงจะแปลกๆนะฮะ :3
27TSUNA- Black Maiden
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 1502
คำขอบคุณ : 63
Join date : 20/04/2010
: 27
ที่อยู่ : ข้างหลังคุณนั่นไง..
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(0/0)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
//นึกภาพไปด้วย
มันส์~~~~~~
มันส์~~~~~~
NoName- Rokudo Mukuro
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 207
คำขอบคุณ : 6
Join date : 25/11/2011
: 28
ที่อยู่ : เครื่องคอมพ์
Level :
ABG Character Profile
ABG Name:
EXP:
(0/0)
status!?:status!? หน่วย HP
Re: Revange of trash • ตอนที่ 8 : "การดวลของสองนักดาบ"
ตอนที่ 8 : การดวลของสองนักดาบ
"เคร้ง!! เคร้งง เคร้ง"
เสียงดาบทั้งสองปะทะกันอย่างดุเดือด
การปะทะกันระหว่างจอมดาบทั้งสองผู้ต่างกัน
ดาบดำกับดาบเงิน
สีดำกับสีสัน
อดีตกับปัจุบัน
Black Mica VS Flip
"เก่ง ไม่เบาเลยนะ ฟลิป" มิคาพูดขึ้น ระหว่างที่ดาบปะทะกันอย่างหนักหน่วง
เคร้งง เคร้งง เสียงดาบปะทะกันต่อไป และฟลิปไม่ได้พูดอะไรออกมา
"เงียบขึ้นเหมือนกันน้า.." มิคาพูดต่อไป
ฟลิปวาดดาบลงและตวัดขึ้นเฉียงฟันไปที่มิคา
ทันใดนั้นดาบของมิคาก็เปล่งประกายสีแดงแวบหนึ่ง ก่อนที่จะฟันสวนกลับไป
ตูมมม!!! เสียงดาบปะทะกันอย่างรุนแรง ลมกระจายไปทั่วห้อง
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก
เสียงดาบทั้งคู่สั่นเพราะต่างฝ่ายต่างใช้อาวุธดันกลับไปหาศัตรู
"หลังที่เราจากไปมีอะไรเปลี่ยนไหม" แบล็คมิคาพูดยิ้มอีกครั้ง ราวกับการปะทะเมื่อกี้ไม่ได้เกิดขึ้น
ไม่สิ ตอนนี้เหมือนกับทั้งคู่ไม่ได้สู้กัน แต่กำลังคุยกันในใต้ร่มไม้ คุยสัพเพเหระ...
ฟลิปจ้องมองไปยังหน้าของแบล็คมิคาที่มีรอยยิ้มประดับ ซึ่งอ่านอารมณ์ไม่ออก
"ก็มีบ้างนะ"
"อย่างไรละ?"
จังหวะที่มิคาถามกลับ ฟลิปก็ถอยตัวพร้อมดาบไปด้านข้างเสียงดาบขูดกันชั่วครู่ จนดาบของฟลิปหลุดออกจากการปะทะ
พอไม่มีแรงต้านแล้ว ทำให้มิคาไถลตัวไปข้างหน้า
ฟลิปหมุนตัวตามจังหวะ วกดาบมาฟันมิคาที่เสียท่าทันที!!
มิคาดูเหมือนรู้ตัว จึงใช้เท้ายันพื้น ยื่นมือไปข้างหน้า แล้วปล่อยตัวตามแรงโน้มถ่วง
แบล็คมิคาจึงหลบวิถีดาบของฟลิปได้ด้วยโดยแรงโน้มถ่วงช่วยอย่างฉิวเฉียด
เมื่อหลบได้แล้ว มิคาก็ยกตัวขึ้นด้วยมือ ต่อด้วยปล่อยลูกเตะใส่
แต่ฟลิปก็หลบตามสัญชาตญาณ ด้วยการกระโดดกลับหลังขึ้นไปก่อนที่กลับมายื่นในทวงท่าดาบเหมือนเดิม
"ก็มีคนเข้ามาเยอะขึ้น มีพื้นที่เพิ่มขึ้นหลายจุด.." ฟลิปตอบคำถาม
มิคาฟังคำถามก็พยักยิ้มอย่างพอใจ "อืม.. งั้นหรอ"
ฟลิปคายบุหรี่ออกจากปาก แล้วใช้มืออีกข้างหยิบอันใหม่ขึ้นมาแทน
"โห.. พอหมดประโยชน์ก็ทิ้งเลยนะ ฟลิป" มิคาพูดแทรกขึ้น
ฟลิปไม่ได้สนใจคำพูดมิคาแม้แต่น้อย แต่เขากำลังสงสัย
เขานึกว่ามิคาจะใช้จังหวะที่จุดบุหรี่นี้โจมตีใส่ซะอีก..
...รึว่าจะรู้ตัวว่าปล่อยโอกาสให้..?
ฟลิปหรี่ตามองมิคาคิดในใจ พร้อมกับหมุนดาบเป็นวงกลมอย่างช้าๆ
ขณะเดียวกัน มิคาก็ยิ้มบางก่อนที่จะนำดาบดำของตัวเองมาตั้งขวางสายตา
ฟลิปสูดบุหรี่เฮือกหนึ่งก่อนจะปล่อยควันออกมา ขยับปากนิดหน่อยเพื่อให้ขี้บุหรี่ร่วงหล่น
ทางมิคาดาบดำเริ่มมีประกายแดงแลบเป็นพักๆ
ทั้งคู่ประสานสายตากัน ไฟแห่งการต่อสู้ในตัวลุกโชน และพร้อมกันนั้นก็ดูท่าทีอีกฝ่าย
ทันใดนั้นเองเสียงระเบิดก็ดังขึ้น!!
ตูมมม!!! โครมมม!!
ราวกับทั้งคู่เสียงระเบิดดังเป็นสัญญาณในการโจมตี ฟลิปและมิคาก็พุ่งตัวเข้าหากัน
ดาบที่ต่างสีกันได้ปะทะกันเป็นรูปบวกอย่างแรง เสียงดาบปะทะกันดังลั่นไปทั่ว
ประกายสายฟ้าสีเงินกับสีแดงแลบออกมาจากายทั้งคู่ หลังจากนั้นก็เกิดคลื่นลมแรงขึ้น!!
มันได้พุ่งไปรอบการปะทะ เสาบางต้นถึงกับแตกร้าวเพราะการโจมตีนี้!!
แต่ทั้งสองหาได้สนใจ พวกเขาต่างจ้องกันและกัน รอดูว่าใครจะก้าวออกจากวงแรงปะทะนี้ก่อน!!
ประกายสายฟ้าแดงเงินของทั้งสองเริ่มจางลงเมื่อเวลาผ่านไปนิดหนึ่ง
ในจังหวะนั้นมิคาก็ขยับตัวก่อน!!
มิคาใช้วิธีเดียวกับฟลิปก่อนหน้านี้คือ ผ่อนแรงดาบให้ดาบของฟลิปไถลไปด้านข้าง
แต่ฟลิปก็รู้ทันจึงยกดาบออกจากออกจากการโจมตี ขึ้นมาโดนบุหรี่
หลังจากนั้นก็เหวี่ยงดาบ เปลี่ยนจากการฟันเป็นการทิ่ม
ในจังหวะเดียวกันมิคาก็หมุนตัวไปทางที่ผ่อนแรง และดาบก็เหวี่ยงไปพร้อมๆที่หมุน
ประกายสายฟ้าแดงกระพริบแลบออกจากดาบที่เป็นพักๆ
ฟลิปทิ่มดาบพร้อมประกายสายฟ้า ทำให้ดาบที่พุ่งแทงไปนั้นเหมือนลำแสงลำหนึ่ง
แต่ขณะที่ลำแสงขาวจะมาถึงศัตรู มิคาก็เอาดาบประกายแดงมาปัดกระแทกเบี่ยงทิศทางดาบได้ทันเวลา
ลำแสงตรงเบี่ยงทางเบี้ยวไปตามแรงกระแทง ตัวฟลิปเซไปเล็กน้อย
มิคาหมุนตัวตามจังหวะ ยกขาอีกข้างเตะใส่ฟลิป
ถึงจะรู้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะร่างกายสมดุลเสียจึงรับลูกเตะเข้าที่หลังไปเต็มๆ
ฟลิปโดนเตะจุก กระเด็นไปข้างหน้าหลายก้าว มิคาใช้จังหวะนี้ทิ่มดาบประกายแดงใส่ฟลิป!!
ตาฟลิปประกายวาบ และโค้งตัวไปข้างหน้า ทำให้ตัวเองกลิ้งหลบรัศมีดาบดำของมิคา
จากนั้นก็ยันตัวด้วยมือขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับหมุนตัว
พอขึ้นไปกลางอากาศ ฟลิปควงดาบอย่างรวดเร็ว แต่มันไปโดนบุหรี่ด้วย ทำให้ขี้บุหรี่ปลิวกระจายไปทั่ว
เมื่อมิคาโดนขี้บุหรี่ ก็ปัดออกเพราะรู้สึกร้อนมาก แต่ขณะเดียวกันก็จ้องฟลิปเขม็ง
ขณะเดียวกัน ฟลิปที่กลับหัวกลางอากาศควงดาบมองมิคาก็ยิ้มกริ่ม ดาบจากที่สีเงินเริ่มส่องประกายสีขาวเรื่อยๆ
มิคาก็เห็นท่าไม่ดี จึงไม่รอจังหวะที่ฟลิปตกลงมาอีกแล้ว แต่เขากระโดดขึ้นฟ้า
ดาบดำประกายแลบแดงขึ้นอีกครั้ง มิคากะปะทะชิงชัยกลางอากาศ!!
เมื่อทั้งสองอยู่กลางอากาศเข้าชิดกันก็ทุ่มสุดแรง!!
ฟลิปฟาดมิคาแทง! ดาบต่างสีทั้งสองประสาน!! แสงเงินแดงส่องไปทั่วห้องโถงอีกครั้ง!!!
"ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
ทั้งสองต่างก็ตะโกนออกมาสุดแรงเพื่อปล่อยพลังเต็มเหนี่ยว
พลังคลื่นลมกระจายไปโดยรอบอีกครั้ง เสาบางส่วนราวเพิ่ม แต่บางส่วนถึงกับแตกพัง!
เห็นได้ชัดว่าพลังโจมตีของทั้งคู่นี้รุนแรงแค่ไหน
ต่างคนต่างต้านแรงของอีกฝ่ายไว้สุดกำลัง เพื่อไม่ให้มาเฉือนเนื้อของตัวเองได้
แต่ดูเหมือนแรงส่งจากการหมุนตัวและควงดาบของฟลิปมีมากกว่าการพุ่งขึ้นมาแทงของมิคา
ด้วยเหตุนี้มิคาจึงปลิวไปทันที!!
ตูม!!!!
เสียงมิคากระแทกเสาดังลั่น เสาร้าวไปรอบจนแตกหันพังเป็นเศษหิน
แต่มิคาดูเหมือนยังไม่ยอมแพ้ เพราะมือของมิคายังกำดาบแน่น
ยังไม่จบแค่นั้น ฟลิปยังปล่อยสายฟ้าที่สะสมอยู่ในดาบมานานพุ่งใส่มิคาที่อยู่บนพื้นรวดเร็วและรุนแรง!!
แสงสว่างจากดาบเงินประกายวาววับ เกิดแสงหักเลี้ยวคดเคี้ยวไปมาอย่างเร็วก่อนที่ปลายท้ายของมันจะไปปะทะกับร่างของมิคา
บรึมมมมมมม!!
จากที่ตรงนั้น แค่เสาพังเฉยๆ กลายเป็นพินาศไปทั้งแถบ!! ต้นเสาที่เคยตั้งหายไป แม้แต่ผนังที่อยู่หลังเสาก็หายไปด้วย!!
แถบบนพื้นมีรอยแถบไหม้สีดำจากสายฟ้าหลายหมื่นองศา เผยเห็นท้องป่าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของผนังตึก
เผยให้เห็นร่างแน่นิ่งสีดำของมิคาที่อยู่บนต้นไม้พร้อมกับดาบดำประกายแดงคู่ใจที่ปักอยู่บนดินข้างเคียงกัน
เมื่อเห็นอีกฝ่ายแน่นิ่งไปแล้ว ฟลิปก็วางใจหน่อย
หลังจากนั้นเขาก็เอี้ยวตัวเบี่ยงทิศทางแรงหมุนแรงของตนเองให้เลิกหมุน ต่อมาก็ทิ้งน้ำหนักไปที่เท้า
ทำให้ร่างที่หมุนตัวกลับหัวได้ลงมาแบบธรรมดา แต่ขณะที่กำลังจะลงพื้นก็มีเสียงสายหนึ่งดังขึ้น
จบตอนที่ 8
"เคร้ง!! เคร้งง เคร้ง"
เสียงดาบทั้งสองปะทะกันอย่างดุเดือด
การปะทะกันระหว่างจอมดาบทั้งสองผู้ต่างกัน
ดาบดำกับดาบเงิน
สีดำกับสีสัน
อดีตกับปัจุบัน
Black Mica VS Flip
"เก่ง ไม่เบาเลยนะ ฟลิป" มิคาพูดขึ้น ระหว่างที่ดาบปะทะกันอย่างหนักหน่วง
เคร้งง เคร้งง เสียงดาบปะทะกันต่อไป และฟลิปไม่ได้พูดอะไรออกมา
"เงียบขึ้นเหมือนกันน้า.." มิคาพูดต่อไป
ฟลิปวาดดาบลงและตวัดขึ้นเฉียงฟันไปที่มิคา
ทันใดนั้นดาบของมิคาก็เปล่งประกายสีแดงแวบหนึ่ง ก่อนที่จะฟันสวนกลับไป
ตูมมม!!! เสียงดาบปะทะกันอย่างรุนแรง ลมกระจายไปทั่วห้อง
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก
เสียงดาบทั้งคู่สั่นเพราะต่างฝ่ายต่างใช้อาวุธดันกลับไปหาศัตรู
"หลังที่เราจากไปมีอะไรเปลี่ยนไหม" แบล็คมิคาพูดยิ้มอีกครั้ง ราวกับการปะทะเมื่อกี้ไม่ได้เกิดขึ้น
ไม่สิ ตอนนี้เหมือนกับทั้งคู่ไม่ได้สู้กัน แต่กำลังคุยกันในใต้ร่มไม้ คุยสัพเพเหระ...
ฟลิปจ้องมองไปยังหน้าของแบล็คมิคาที่มีรอยยิ้มประดับ ซึ่งอ่านอารมณ์ไม่ออก
"ก็มีบ้างนะ"
"อย่างไรละ?"
จังหวะที่มิคาถามกลับ ฟลิปก็ถอยตัวพร้อมดาบไปด้านข้างเสียงดาบขูดกันชั่วครู่ จนดาบของฟลิปหลุดออกจากการปะทะ
พอไม่มีแรงต้านแล้ว ทำให้มิคาไถลตัวไปข้างหน้า
ฟลิปหมุนตัวตามจังหวะ วกดาบมาฟันมิคาที่เสียท่าทันที!!
มิคาดูเหมือนรู้ตัว จึงใช้เท้ายันพื้น ยื่นมือไปข้างหน้า แล้วปล่อยตัวตามแรงโน้มถ่วง
แบล็คมิคาจึงหลบวิถีดาบของฟลิปได้ด้วยโดยแรงโน้มถ่วงช่วยอย่างฉิวเฉียด
เมื่อหลบได้แล้ว มิคาก็ยกตัวขึ้นด้วยมือ ต่อด้วยปล่อยลูกเตะใส่
แต่ฟลิปก็หลบตามสัญชาตญาณ ด้วยการกระโดดกลับหลังขึ้นไปก่อนที่กลับมายื่นในทวงท่าดาบเหมือนเดิม
"ก็มีคนเข้ามาเยอะขึ้น มีพื้นที่เพิ่มขึ้นหลายจุด.." ฟลิปตอบคำถาม
มิคาฟังคำถามก็พยักยิ้มอย่างพอใจ "อืม.. งั้นหรอ"
ฟลิปคายบุหรี่ออกจากปาก แล้วใช้มืออีกข้างหยิบอันใหม่ขึ้นมาแทน
"โห.. พอหมดประโยชน์ก็ทิ้งเลยนะ ฟลิป" มิคาพูดแทรกขึ้น
ฟลิปไม่ได้สนใจคำพูดมิคาแม้แต่น้อย แต่เขากำลังสงสัย
เขานึกว่ามิคาจะใช้จังหวะที่จุดบุหรี่นี้โจมตีใส่ซะอีก..
...รึว่าจะรู้ตัวว่าปล่อยโอกาสให้..?
ฟลิปหรี่ตามองมิคาคิดในใจ พร้อมกับหมุนดาบเป็นวงกลมอย่างช้าๆ
ขณะเดียวกัน มิคาก็ยิ้มบางก่อนที่จะนำดาบดำของตัวเองมาตั้งขวางสายตา
ฟลิปสูดบุหรี่เฮือกหนึ่งก่อนจะปล่อยควันออกมา ขยับปากนิดหน่อยเพื่อให้ขี้บุหรี่ร่วงหล่น
ทางมิคาดาบดำเริ่มมีประกายแดงแลบเป็นพักๆ
ทั้งคู่ประสานสายตากัน ไฟแห่งการต่อสู้ในตัวลุกโชน และพร้อมกันนั้นก็ดูท่าทีอีกฝ่าย
ทันใดนั้นเองเสียงระเบิดก็ดังขึ้น!!
ตูมมม!!! โครมมม!!
ราวกับทั้งคู่เสียงระเบิดดังเป็นสัญญาณในการโจมตี ฟลิปและมิคาก็พุ่งตัวเข้าหากัน
ดาบที่ต่างสีกันได้ปะทะกันเป็นรูปบวกอย่างแรง เสียงดาบปะทะกันดังลั่นไปทั่ว
ประกายสายฟ้าสีเงินกับสีแดงแลบออกมาจากายทั้งคู่ หลังจากนั้นก็เกิดคลื่นลมแรงขึ้น!!
มันได้พุ่งไปรอบการปะทะ เสาบางต้นถึงกับแตกร้าวเพราะการโจมตีนี้!!
แต่ทั้งสองหาได้สนใจ พวกเขาต่างจ้องกันและกัน รอดูว่าใครจะก้าวออกจากวงแรงปะทะนี้ก่อน!!
ประกายสายฟ้าแดงเงินของทั้งสองเริ่มจางลงเมื่อเวลาผ่านไปนิดหนึ่ง
ในจังหวะนั้นมิคาก็ขยับตัวก่อน!!
มิคาใช้วิธีเดียวกับฟลิปก่อนหน้านี้คือ ผ่อนแรงดาบให้ดาบของฟลิปไถลไปด้านข้าง
แต่ฟลิปก็รู้ทันจึงยกดาบออกจากออกจากการโจมตี ขึ้นมาโดนบุหรี่
หลังจากนั้นก็เหวี่ยงดาบ เปลี่ยนจากการฟันเป็นการทิ่ม
ในจังหวะเดียวกันมิคาก็หมุนตัวไปทางที่ผ่อนแรง และดาบก็เหวี่ยงไปพร้อมๆที่หมุน
ประกายสายฟ้าแดงกระพริบแลบออกจากดาบที่เป็นพักๆ
ฟลิปทิ่มดาบพร้อมประกายสายฟ้า ทำให้ดาบที่พุ่งแทงไปนั้นเหมือนลำแสงลำหนึ่ง
แต่ขณะที่ลำแสงขาวจะมาถึงศัตรู มิคาก็เอาดาบประกายแดงมาปัดกระแทกเบี่ยงทิศทางดาบได้ทันเวลา
ลำแสงตรงเบี่ยงทางเบี้ยวไปตามแรงกระแทง ตัวฟลิปเซไปเล็กน้อย
มิคาหมุนตัวตามจังหวะ ยกขาอีกข้างเตะใส่ฟลิป
ถึงจะรู้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะร่างกายสมดุลเสียจึงรับลูกเตะเข้าที่หลังไปเต็มๆ
ฟลิปโดนเตะจุก กระเด็นไปข้างหน้าหลายก้าว มิคาใช้จังหวะนี้ทิ่มดาบประกายแดงใส่ฟลิป!!
ตาฟลิปประกายวาบ และโค้งตัวไปข้างหน้า ทำให้ตัวเองกลิ้งหลบรัศมีดาบดำของมิคา
จากนั้นก็ยันตัวด้วยมือขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับหมุนตัว
พอขึ้นไปกลางอากาศ ฟลิปควงดาบอย่างรวดเร็ว แต่มันไปโดนบุหรี่ด้วย ทำให้ขี้บุหรี่ปลิวกระจายไปทั่ว
เมื่อมิคาโดนขี้บุหรี่ ก็ปัดออกเพราะรู้สึกร้อนมาก แต่ขณะเดียวกันก็จ้องฟลิปเขม็ง
ขณะเดียวกัน ฟลิปที่กลับหัวกลางอากาศควงดาบมองมิคาก็ยิ้มกริ่ม ดาบจากที่สีเงินเริ่มส่องประกายสีขาวเรื่อยๆ
มิคาก็เห็นท่าไม่ดี จึงไม่รอจังหวะที่ฟลิปตกลงมาอีกแล้ว แต่เขากระโดดขึ้นฟ้า
ดาบดำประกายแลบแดงขึ้นอีกครั้ง มิคากะปะทะชิงชัยกลางอากาศ!!
เมื่อทั้งสองอยู่กลางอากาศเข้าชิดกันก็ทุ่มสุดแรง!!
ฟลิปฟาดมิคาแทง! ดาบต่างสีทั้งสองประสาน!! แสงเงินแดงส่องไปทั่วห้องโถงอีกครั้ง!!!
"ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
ทั้งสองต่างก็ตะโกนออกมาสุดแรงเพื่อปล่อยพลังเต็มเหนี่ยว
พลังคลื่นลมกระจายไปโดยรอบอีกครั้ง เสาบางส่วนราวเพิ่ม แต่บางส่วนถึงกับแตกพัง!
เห็นได้ชัดว่าพลังโจมตีของทั้งคู่นี้รุนแรงแค่ไหน
ต่างคนต่างต้านแรงของอีกฝ่ายไว้สุดกำลัง เพื่อไม่ให้มาเฉือนเนื้อของตัวเองได้
แต่ดูเหมือนแรงส่งจากการหมุนตัวและควงดาบของฟลิปมีมากกว่าการพุ่งขึ้นมาแทงของมิคา
ด้วยเหตุนี้มิคาจึงปลิวไปทันที!!
ตูม!!!!
เสียงมิคากระแทกเสาดังลั่น เสาร้าวไปรอบจนแตกหันพังเป็นเศษหิน
แต่มิคาดูเหมือนยังไม่ยอมแพ้ เพราะมือของมิคายังกำดาบแน่น
ยังไม่จบแค่นั้น ฟลิปยังปล่อยสายฟ้าที่สะสมอยู่ในดาบมานานพุ่งใส่มิคาที่อยู่บนพื้นรวดเร็วและรุนแรง!!
แสงสว่างจากดาบเงินประกายวาววับ เกิดแสงหักเลี้ยวคดเคี้ยวไปมาอย่างเร็วก่อนที่ปลายท้ายของมันจะไปปะทะกับร่างของมิคา
บรึมมมมมมม!!
จากที่ตรงนั้น แค่เสาพังเฉยๆ กลายเป็นพินาศไปทั้งแถบ!! ต้นเสาที่เคยตั้งหายไป แม้แต่ผนังที่อยู่หลังเสาก็หายไปด้วย!!
แถบบนพื้นมีรอยแถบไหม้สีดำจากสายฟ้าหลายหมื่นองศา เผยเห็นท้องป่าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของผนังตึก
เผยให้เห็นร่างแน่นิ่งสีดำของมิคาที่อยู่บนต้นไม้พร้อมกับดาบดำประกายแดงคู่ใจที่ปักอยู่บนดินข้างเคียงกัน
เมื่อเห็นอีกฝ่ายแน่นิ่งไปแล้ว ฟลิปก็วางใจหน่อย
หลังจากนั้นเขาก็เอี้ยวตัวเบี่ยงทิศทางแรงหมุนแรงของตนเองให้เลิกหมุน ต่อมาก็ทิ้งน้ำหนักไปที่เท้า
ทำให้ร่างที่หมุนตัวกลับหัวได้ลงมาแบบธรรมดา แต่ขณะที่กำลังจะลงพื้นก็มีเสียงสายหนึ่งดังขึ้น
จบตอนที่ 8
Black Of King- Administrator
- Status :
Online Offline
จำนวนข้อความ : 1752
คำขอบคุณ : 101
Join date : 05/04/2009
Level :
ABG Character Profile
ABG Name: Purpleeeeee!
EXP:
(513/2000)
status!?:status!? หน่วย HP
หน้า 2 จาก 2 • 1, 2
Similar topics
» Revange of trush 2
» การ์ตูนTrailer Trash Animated Series ที่โหดยิ่งกว่า happy Tree Friend อีก
» ชีวิตประจำวัน ตอนที่ 1
» Mission II : ตอนที่ 20 : ตื่น
» Mission : ตอนที่ 13 : ความรัก... จะอยู่ตลอดไป... ชั่วนิรันดร์...
» การ์ตูนTrailer Trash Animated Series ที่โหดยิ่งกว่า happy Tree Friend อีก
» ชีวิตประจำวัน ตอนที่ 1
» Mission II : ตอนที่ 20 : ตื่น
» Mission : ตอนที่ 13 : ความรัก... จะอยู่ตลอดไป... ชั่วนิรันดร์...
หน้า 2 จาก 2
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ